กระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศว่า ตั้งแต่ 15 สิงหาคม 2560 จีนจะห้ามนำเข้าถ่านหิน เหล็ก แร่เหล็ก ตะกั่ว แร่ตะกั่ว และอาหารทะเลจากเกาหลีเหนือ โดยการประกาศห้ามดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติที่เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้การทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมอย่างไรก็ตาม สินค้าที่เดินทางมาถึงท่าเรือของจีนแล้วก่อนที่จะมีการประกาศห้าม จะยังได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในตลาดของจีนอยู่
ขณะเดียวกัน ฮั่ว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ได้แถลงตอบโต้รายงานที่ระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกร้องให้ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เริ่มสืบสวนเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของจีน ซึ่งถูกมองว่าเป็นแผนที่จะต่อรองให้จีนช่วยกดดันเกาหลีเหนือมากขึ้น โดยนางฮั่วย้ำว่า ประเด็นคาบสมุทรเกาหลีและการค้าเป็นคนละเรื่องกัน และการนำเรื่องหนึ่งมากดดันอีกเรื่องก็เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ โฆษกต่างประเทศของจีนปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถามว่าจีนจะทำอย่างไรหากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธลงทะเลใกล้เกาะกวมจริง โดยบอกเพียงว่า รัฐบาลจีนหวังว่า สถานการณ์จะคลายความตึงเครียดลงได้ และหวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะยอมรับข้อเสนอของจีนและรัสเซียที่ให้ทั้งฝ่ายเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ หยุดกิจกรรมที่เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง
ส่วนความคืบหน้าในประเทศเกาหลีใต้ พลเอกโจเซฟ ดันฟอร์ด ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯ ได้เดินทางถึงกรุงโซล และหารือกับประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ ถึงความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ก่อนที่จะถึงกำหนดการซ้อมรบร่วมระหว่างกองทัพสหรัฐฯและเกาหลีใต้ในเดือนนี้
โดยพลเอกดันฟอร์ด กล่าวว่า สหรัฐฯ พร้อมตอบโต้อย่างเด็ดเดี่ยว หากเกาหลีเหนือโจมตีเกาะกวม แต่ย้ำว่าสหรัฐฯ จะใช้วิธีเจรจาทางการทูตและการกดดันทางเศรษฐกิจในการรับมือกับเกาหลีเหนือ เพื่อแก้ปัญหาอย่างสันติ
ส่วนที่ประเทศญี่ปุ่น ทหารจากกองทัพสหรัฐฯและญี่ปุ่นเริ่มภารกิจซ้อมรบร่วมด้วยกระสุนจริง บนเกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการซ้อมตามกำหนดอยู่แล้ว แต่มีขึ้นขณะที่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือทวีความตึงเครียดขึ้น