ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เกาหลีเหนือมีท่าทีแข็งกร้าว และประกาศจะยิงขีปนาวุธใส่ดินแดนของสหรัฐ แต่ล่าสุดทุกอย่างเริ่มผ่อนคลาย เมื่อ คิมจองอึน ผู้นำโสมแดงสั่งยับยั้งปฏิบัติการดังกล่าว พร้อมกับบอกว่า จะรอดูทีท่าของสหรัฐก่อน แสดงให้เห็นว่า เกาหลีเหนือเองก็ต้องการเจรจา มากกว่าใช้กำลังและเปิดสงคราม เท่านั้นยังไม่พอ ยังบอกด้วยว่า อยากให้สหรัฐแสดงความจริงใจ ที่จะลดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี แล้วหันมาเจรจากันอย่างจริงจัง แต่แท้ที่จริงแล้ว สหรัฐกับเกาหลีเนือ มีการแอบเจรจากันก่อนหน้านี้แล้ว คือย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่นายอ็อตโต้ วอร์มเบียร์ ที่ติดคุกอยู่ในเกาหลีเหนือ ซึ่งก็ได้การเจรจาลับระหว่าง นายโจเซฟ ยุน ผู้แทนพิเศษของสหรัฐผู้ดูแลด้านนโยบายเกาหลีเหนือ กับนายปาร์ค ซอง อิล นักการทูตพิเศษประจำสหประชาชาติของเกาหลีเหนือ นานหลายเดือนจนนายวอร์มเบียร์ได้รับอิสระ และเป็นทั้งสองคนนี้เช่นกัน ที่เดินหน้าเจรจาเพื่อยุติความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ และการเจรจานี้ก็กำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่อยู่ในขณะนี้
ส่วนของสหรัฐ ก็มีท่าทีที่ยืดหยุ่นประนีประนอมมากขึ้น เห็นได้ชัดจากการที่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ พูดบนเวทีการประชุมอาเซียนที่ฟิลิปปินส์ว่า สหรัฐพร้อมจะเปิดการเจรจากับเกาหลีเหนือ หากเกาหลีเหนือยับยั้งการยิงขีปนาวุธ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เขาใช้คำว่า สหรัฐจะเจรจาก็ต่อเมื่อเกาหลีเหนือยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ขณะที่การเจรจาอาจไม่ใช่เป็นการรับประกันว่า ทุกอย่างจะออกมาแบบไม่มีใครเจ็บตัว เพราะจนถึงตอนนี้ การเผชิญหน้าทางทหารก็ยังดำเนินอยู่ และหลายต่อหลายครั้งที่เกาหลีเหนือแสดงให้เห็นแล้วว่า การเจรจาไม่ใช่คำตอบสุดท้าย อย่างการเจรจานิวเคลียร์ 6 ฝ่าย ที่เกาหลีเหนือแผลงฤทธิ์คว่ำการประชุมมาแล้วหลายครั้ง
