“ขับรถพุ่งชนคน” บทเรียนซ้ำซากการก่อการร้ายในยุโรป


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ประเทศสเปนว่างเว้นจากการถูกโจมตีมานานนับ 10 ปี แต่เมื่อวานนี้เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างบาร์เซโลนา ก็เกิดเหตุร้ายที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อคนร้ายขับรถตู้ที่เช่ามา ไล่ชนนักท่องเที่ยวจนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก การก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ เคยเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วยุโรป แต่ทำไมจึงไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ

บาร์เซโลน่าของสเปน เป็นอีกเมืองหนึ่งของยุโรป ที่ตกเป็นเป้าของกลุ่มก่อการร้าย ที่ชอบลงมือในพื้นที่ ที่เป็นเป้าหมายอ่อนไหว หรือซอฟท์ ทาร์เก็ต และที่เหมือนกับเมืองอื่นๆ ที่เคยถูกโจมตีมาแล้ว นั่นคือจุดที่คนร้ายลงมือเป็นจุดชุมนุมของนักท่องเที่ยว หากย้อนกลับไปดูเหตุรุนแรงในลักษณะเดียวกันนี้ในอดีต เช่นเมืองนีซ ของฝรั่งเศส ที่ถูกโจมตีในวันชาติพอดี ต่อมาก็คือตลาดคริสต์มาสในกรุงเบอร์ลินของเยอรมนี ตามด้วยเหตุร้ายที่เวสต์มินส์เตอร์ สะพานลอนดอน บริดจ์ รวมถึง ฟินส์บิวรี่ พาร์ค ซึ่งเหตุทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คนร้ายใช่รถยนต์เป็นอาวุธทั้งสิ้น

ทางการของหลายประเทศพยายามป้องกันเหตุด้วยวิธีต่างๆ อย่างของอังกฤษ จะติดตั้งเครื่องกีดขวาง ไม่ให้รถสามารถแล่นเข้าถึงจุดที่มีผู้คนชุมนุมอยู่ ซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะคงเป็นไปไม่ได้ ที่จะนำเครื่องกีดขวาง มาติดตั้งทุกจุดที่มีผู้คนอยู่ อีกวีธีหนึ่งที่คิดกันก็คือ ตรวจเช็ครถเช่าทุกคัน โดยเฉพาะรถบรรทุกหรือรถตู้ แต่เจ้าหน้าที่ทั้งของอังกฤษและทั่วยุโรปต่างยอมรับว่า วิธีนี้ต้องใช้กำลังคนมาก เพราะในแต่ละวัน มีคนเช่ารถกันเป็นจำนวนหมื่นหรือหลักแสนขึ้นไป การตรวจสอบจึงทำได้ยาก

หากดูจากอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุซึ่งก็คือรถยนต์ ถือเป็นอาวุธที่หาที่ไหนก็ได้ แถมยังไม่จำเป็นต้องฝึกซ้อมขั้นตอนหรือวิธีการใช้ พูดง่ายๆ คือ ถ้าขับรถได้ ก็สามารถก่อเหตุได้แล้ว ต่างจากในอดีตที่คนร้ายมักจะใช้ระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถแกะรอยได้ รวมถึงผู้ก่อเหตุจะต้องเชี่ยวชาญในการประกอบระเบิดด้วย ส่วนการพกพาไปก่อเหตุก็สังเกตได้ง่าย และมักจะมีพิรุธให้เจ้าหน้าที่สังเกตได้ แต่ถ้าเป็นรถยนต์ ก็แค่ขับและพุ่งเข้าหาเป้าหมายเท่านั้น ส่วนเจ้าหน้าที่เองก็ไม่ทันระวังตัวด้วย

นอกจากนี้ การก่อเหตุในลักษณะนี้ ไม่จำเป็นต้องมีการติดต่อสื่อสารกับหัวหน้ากลุ่ม แค่คนที่อุดมการณ์หรือฝักใฝ่กลุ่มก่อการร้าย ก็พร้อมที่จะลงไปได้ทุกเมื่อ ซึ่งในระยะหลัง กลุ่มไอเอส มักจะใช้เป็นข้ออ้างว่า นี่คือการลงมือโดยนักรบ ที่ไม่จำเป็นต้องรับฟังคำสั่งจากส่วนกลาง คือสะดวกเมื่อไหร่ ก็ลงมือได้เมื่อนั้น สุดท้ายนี้ สิ่งที่เจ้าหน้าที่จะทำได้ก็คือ วิธีวัวหายล้อมคอก คือเกิดเรื่องที ก็เข้มงวดและตื่นตัวกันที เพราะยังหาวิธีที่ดีที่สุดจัดการไม่ได้



AFP

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ