วันนี้ (28 ส.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐบาลเคนยาประกาศยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกทั่วประเทศ โดยหากพบว่าร้านค้าแห่งไหน ยังใช้ถุงพลาสติกใส่ของให้กับลูกค้า เจ้าของร้านจะถูกปรับเป็นเงินสูงสุด 38,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยเกือบ 1 ล้าน 3 แสนบาท หรืออาจถูกลงโทษจำคุกนานถึง 4 ปี กฎหมายนี้ยังครอบคลุมไปถึงชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าประเทศ และถือถุงพลาสติกเข้าประเทศ จะต้องทิ้งถุงทั้งหมดไว้กับเจ้าหน้าที่สนามบิน โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น
ด้านโรงงานผลิตถุงพลาสติก ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก และมีการเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายดังกล่าว โดยอ้างว่าจะทำให้มีคนต้องตกงานถึง 8 หมื่นคน แต่รัฐบาลยืนยันว่า กฎหมายฉบับนี้จะเป็นผลดีต่อประชาชน และที่สำคัญคือ การใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ย่อมสำคัญกว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจ
ความพยายามนี้เป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 10 ปีของรัฐบาลเคนยา ที่ต้องการยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกอย่างถาวรในประเทศ หลังจาก 3 ครั้งก่อนหน้านี้ล้มเหลว เพราะประชาชนยังติดกับการใช้ถุงพลาสติก แต่รัฐบาลยืนยันว่า ครั้งนี้จะเอาจริงเอาจังอย่างเด็ดขาด ข้อมูลจากนักวิชาการเกี่ยวกับตัวเลขการใช้ถุงชนิดต่างๆ ระบุว่า การใช้ถุงพลาสติก จะต้องใช้ซ้ำอย่างน้อย 4 ครั้ง ถึงจะคุ้มค่ากับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตถุง 1 ใบ ส่วนถุงกระดาษควรใช้ซ้ำ 3 ครั้ง และถุงผ้าจะต้องใช้ซ้ำ 131 ครั้ง