ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปฏิบัติการจับตัวจระเข้ครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อคืนวานนี้ เจ้าหน้าที่ใช้กำลังค้นหาทั้งทางบกเเละทางน้ำ โดยใช้เรือจำนวน 3 ลำ คือ เรือวางอวน 1 ลำ และเรือลาดตระเวน 2 ลำ ส่วนทางบกเจ้าหน้าที่วางกำลังประจำจุดต่าง ๆ โดยรอบบ่อน้ำ และทันทีที่เจ้าหน้าที่ใช้เรือลาดตระเวนรอบบ่อน้ำ พบจระเข้หลายครั้ง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะจระเข้มุดว่ายน้ำไปได้หลายครั้ง
ทั้งนี้ ใกล้รุ่งสางเจ้าหน้าที่สามารถต้อนจระเข้เข้าฝั่งได้ จึงล่อให้จระเข้อยู่ในอวนชั้นในที่ล้อมดักไว้ เเต่จังหวะกำลังล้อมอ้วนนั้น จระเข้พยายามสะบัดอวนขาดก่อนมุดหนีไป ทำให้ต้องเริ่มการค้นหาใหม่ สุดท้ายพบตัวอยู่บริเวณใกล้ชายฝั่งที่เชื่อมต่อทะเล เจ้าหน้าที่จึงใช้แผนกดดัน ทำให้จระเข้ว่ายน้ำจนอ่อนแรงและเริ่มเข้าหาฝั่ง จึงต้อนเข้าในแนวอวนจนสามารถจับตัวไว้ได้
เจ้าหน้าที่ระบุว่า จระเข้ตัวนี้ไม่มีความดุร้าย แต่ค่อนข้างเฉลียวฉลาด เพราะตลอดเวลาปฏิบัติการตามจับ จระเข้ไม่ยอมเข้าฝั่ง เพราะรู้ว่าเจ้าหน้าที่ปิดล้อมอวนไว้
สำหรับจระเข้ตัวดังกล่าววัดความยาวเบื้องต้นประมาณ 3 เมตร ขณะนี้นำส่งให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งภูเก็ต บ้านพารา อำเภอถลาง ดูแลและตรวจสอบว่าเป็นจระเข้น้ำจืดหรือน้ำเค็ม แต่เบื้องต้นพบจุดบนท้ายทอยของจระเข้ คาดว่าเป็นพันธุ์น้ำจืด แต่ยังต้องรอการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง
ส่วนความคืบหน้ากรณีจระเข้หลุดจากฟาร์มในอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา หลังดินใต้กำแพงบ่อเลี้ยง ทรุดตัว ทำให้จระเข้หลุดออกมาด้านนอก วันนี้ฟาร์มดังกล่าวปิดไม่ให้คนนอกเข้าไป เพื่อตรวจสอบจำนวนจระเข้ทั้งหมด พบว่าฟาร์มแห่งนี้เลี้ยงจระเข้ไว้ทั้งหมด 21 บ่อ เป็นบ่อดินธรรมชาติ 2 บ่อ มีจระเข้ทั้งหมด 709 ตัว และหลุดออกจากบ่อดินที่ชำรุด 23 ตัว ชาวบ้านจับได้และยิงตายไป 19 ตัว ขณะนี้ยังมีจระเข้ที่หลุดรอดอยู่อีก 4 ตัว
เบื้องต้นทางอำเภอสิงหนคร ได้จัดทีมเพื่อออกค้นหาจระเข้ที่เหลือโดยเร็ว คาดว่าจะยังคงวนเวียนอยู่บริเวณป่าพรุรอบฟาร์ม โดยจระเข้ที่หลุดไปมีความยาวตั้งแต่ 1 เมตรครึ่งถึง 2 เมตร พร้อมกับขอความร่วมมือชาวบ้านหากพบจระเข้ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปจับเพื่อความปลอดภัย