สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพเมียนมาร์กำลังดำเนินการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายสุดโต่ง ที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มชาวโรฮิงญา หรือที่ชาวเมียนมาร์เรียกว่าผู้อพยพชาวเบงกอล ในรัฐยะไข่ ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศบังกลาเทศ ทางรัฐบาลบังกลาเทศก็ได้เสนอว่าจะให้ความช่วยเหลือเมียนมาร์ในการจัดการกับกลุ่มก่อการร้าย
วันนี้ เจ้าหน้าที่บังกลาเทศ พบร่างผู้เสียชีวิตชาวโรฮิงญา 20 คน รายงานระบุว่า ทั้ง 20 คน จมน้ำ ขณะที่เจ้าหน้าที่เชื่อชาวโรฮิงญากลุ่มนี้พยายามหนีออกมาจากยะไข่ด้วยเรือประมงเล็กๆ แต่เรืออับปางลงก่อนถึงฝั่งบังกลาเทศ
ด้านชาวโรฮิงญาที่หนีตายมาทางฝั่งบังกลาเทศ เปิดเผยว่า กองทัพเมียนมาร์ต้องการจะไล่พวกตนออกจากรัฐยะไข่ โดยการฆ่าฟันและเผาบ้านเรือน การรับมือกับวิกฤติโรฮิงญา ถือเป็นความท้าทายอันดับหนึ่งของ นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และ รัฐมนตรีต่างประเทศของเมียนมาร์ ซึ่งถูกลุ่มสิทธิมนุษยชนวิจารณ์ว่า นิ่งเฉยต่อความทุกข์ทรมานของชาวโรฮิงญา
ก่อนหน้านี้ สำนักงานของนาง ซูจี กล่าวหาคณะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนนานาชาติที่เข้ามาสังเกตุการณ์ในรัฐยะไข่ ว่าไปให้ความช่วยเหลือกลุ่มก่อการร้ายโรฮิงญา โดยตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด
รายงานระบุว่า กองทัพเมียนมาร์ พบกล่องอาหารของคณะทำงานของสหประชาชาติอยู่ในค่ายหลบภัยของกลุ่มก่อการร้าย เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม เมื่อวานนี้ กองทัพเมียนมาร์ระบุว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงรอบล่าสุดในรัฐยะไข่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว กองทัพสามารถสังหารกลุ่มกบฏแล้วประมาณ 370 คน ขณะที่มีเจ้าหน้าที่รัฐและทหารเสียชีวิต 13 ราย และพลเมืองชาวเมียนมาร์อีก 14 คน ขณะที่สหประชาชาติเผยว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา อพยพหนีการสู้รบจากเมียนมาร์ข้ามไปยังบังกลาเทศแล้ว 38,000 คน
