เมื่อวันที่ (5 ก.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2561 มีแนวโน้มอาจต้องปรับขึ้นค่าผ่านทางพิเศษ หรือ ทางด่วน จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ ทางด่วนอุดรรัถยา สายบางปะอิน-ปากเกร็ด และทางด่วนศรีรัช หรือ ทางด่วนขั้นที่ 2 ซึ่งเป็นไปตามสัญญาที่ต้องปรับค่าผ่านทาง ทุก ๆ 5 ปี บนพื้นฐานของอัตราเงินเฟ้อ
เบื้องต้น หากคำนวณแล้วมีผล ให้ปรับเพิ่มไม่ถึง 5 บาท ก็จะไม่มีการปรับขึ้นค่าผ่านทาง แต่หากเกิน 5 บาท ก็ต้องปรับค่าผ่านทาง ซึ่งก็เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดที่ กพท. ถือปฏิบัติทุกครั้ง โดยถ้าจะต้องปรับขึ้นค่าทางด่วน ทั้ง 2 เส้นทาง ก็จะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป
ขณะที่ในสัปดาห์นี้ คณะกรรมการบริหารระบบขนส่งมวลชน กรุงเทพมหานคร จะหาแนวทางเจรจากับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้า BTS เพื่อขอให้ชะลอ หรือลดอัตราการปรับขึ้นค่าโดยสาร จากเดิม 15 - 42 บาท เป็น 16 - 44 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ออกไปก่อน
อย่างไรก็ตาม การขอให้ชะลอการขึ้นค่าโดยสารต้องขึ้นอยู่กับทาง BTS เพราะการปรับขึ้นค่าโดยสารเป็นไปตามสัญญาสัมปทานที่ระบุให้ปรับขึ้นได้และสามารถปรับค่าโดยสารได้ทุก 18 เดือน แต่ต้องไม่เกินเพดานอัตราค่าโดยสารสูงสุดที่ 60 บาท 31 สตางค์
นายอาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ยืนยันว่า จะต้องปรับขึ้นค่าโดยสารตามที่แจ้งประชาชนล่วงหน้าไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เพราะต้นทุนดำเนินการปรับขึ้นมาก และไม่ได้ปรับขึ้นค่าโดยสารมา 4 ปี โดยล่าสุดปรับขึ้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2556