ในแต่ละเดือน "ศุกล สีทา" ผู้เช่าหอพักรายนี้ ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าสูงถึง 8 บาทต่อหน่วย มากกว่าค่าไฟบ้านทั่วไปถึง 1 เท่า และค่าน้ำสูงถึง 17 บาทต่อหน่วย แม้ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเหตุใดเจ้าของหอพักต้องเก็บค่าไฟฟ้าแพงกว่าทั่วไป แต่ก็ต้องจ่ายตามที่เรียกเก็บ เพราะในสัญญาเช่าระบุไว้
จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พบว่า มีผู้ร้องเรียนเรื่องค่าน้ำ-ค่าไฟหอพักแพง ปีละเกือบ 200 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา และวัยทำงาน บางรายถูกเรียกเก็บค่าไฟสูงสุดหน่วยละ 8 บาท ค่าน้ำสูงสุดหน่วยละ 20 บาท
สำหรับหอพักหนึ่งแห่งจะมีหม้อไฟฟ้า 1 หม้อ ก่อนจะจ่ายไฟผ่านมิตเตอร์ให้กับห้องพักแต่ละห้อง แต่ละเดือนบิลค่าไฟของหอพักจะคิดรวมทั้งอาคารมาในใบเสร็จเดียวในราคาหน่วยละ 3 บาท 50 สตางค์ อย่างเช่น หอพักแห่งนี้ ใช้ไฟไป 10,919 หน่วย จ่ายค่าไฟให้การไฟฟ้าในราคาที่รวมภาษีแล้ว ประมาณ 48,573 บาท แต่เรียกเก็บค่าไฟกับผู้เช่าในราคาหน่วยละ 7 บาท หมายความว่า หอพักแห่งนี้ได้ส่วนต่างจากการเก็บค่าไฟอีก 1 เท่า แม้ส่วนต่างที่ได้รับจะมากกว่า 1 เท่าจากค่าไฟที่จ่ายให้การไฟฟ้า แต่ผู้ประกอบการหอพักส่วนใหญ่ ก็ยืนยันว่า หากเก็บค่าไฟหอพักลดลงผลประกอบการจะไม่คุ้มค่า เพราะมีค่าใช้จ่ายอื่นรวมอยู่ด้วย
ขณะที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีมติที่จะแก้ปัญหานี้ โดยร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ควบคุมราคาสินค้าและบริการ ตาม พระราชบัญญัติราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่จะบังคับใช้กฎหมายควบคุมหอพัก คาดว่าภายในเดือนตุลาคมนี้จะได้ข้อสรุปและเปิดเจรจากับผู้ประกอบการ
กัสกร ประดับมุข ถ่ายภาพ
ธิดาพร ภูแดนแผน รายงาน
