ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภักดี มานะเวศ รองเลขาธิการ กสทช. ยืนยันว่า การเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เปิดช่องให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลสามารถคืนช่องได้ โดยไม่ต้องชำระเงินประมูลส่วนที่เหลือ เป็นผลมาจากการไม่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายปกติ แต่เรื่องนี้ยังเป็นเพียงแนวคิดส่วนตัวของ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการ กิจการกระสายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ซึ่งยังไม่ได้นำเข้าที่ประชุมให้มีมติรองรับอย่างเป็นทางการ สาเหตุที่ต้องหาทางเลือกเช่นนี้ให้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ได้รับคำอธิบายจากเลขาธิการกสทช.ว่า เป็นผลมาจากข้อมูลทางวิชาการที่ได้รับการยอมรับร่วมกันจากหลายฝ่ายว่า ปัจจุบันที่จำนวนช่องมากเกินไป สำหรับ 24 ช่องธุรกิจ โดยจำนวนช่องที่เหมาะสม ควรอยู่ที่ประมาณ 15 ช่อง เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในทางธุรกิจที่มีมูลค่าจากค่าโฆษณาจำกัดและถูกสื่อออนไลน์แบ่งไป
ขณะที่ ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า หาก กสทช. ใช้วิธีนี้ในการอุ้มผู้ประกอบการ อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของรัฐที่จะหายไปหลายหมื่นล้านบาท โดยข้อเท็จจริงคือเรื่องตัวเลขจำนวนช่องเป็นเป็นปัญหาที่ท้วงติงตั้งแต่ก่อนประมูล
ตามกำหนดพรุ่งนี้ จะมีการประชุมบอร์ดกสทช. ยังไม่มีรายงานว่า ข้อเสนอให้รัฐบาลคสช. ช่วยเปิดทางให้คืนช่องทีวีดิจิทัล จะเป็นส่วนหนึ่งของวาระประชุมหรือไม่ แต่หลังการประชุม นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. จะแถลงข่าว ซึ่งคาดว่าจะมีการสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้โดยละเอียด