วันนี้ ( 7 ก.ย.60) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เชิญชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น มาร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา “ช้างป่า” จากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ลงมาในเขตด้านล่างอุทยานฯ และรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ของชาวบ้าน ทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย โดยได้แลกเปลี่ยนรับฟังปัญหาของชาวบ้านและบอกสาเหตุที่ช้างลงมายังพื้นที่
นสพ.ภัทรพล มณีอ่อนหรือ หมอล็อต นายสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า สาเหตุที่ช้างลงมายังพื้นที่ เนื่องจากขณะนี้เกิดเหตุการณ์ป่าล้อมทุ่งหญ้าบนพื้นที่อุทยานฯ เนื่องจากตอนนี้ได้มีวัชพืชต่างถิ่น คือ “ต้นสาปเสือ” เกิดขึ้นในพื้นที่อุทยานฯ ส่งผลให้พืชชนิดปกคลุมพื้นที่ป่า จนทำให้ทุ่งหญ้าที่เป็นแหล่งหากินของช้างนั้นค่อยๆลดลง ซึ่งสวนทางกับจำนวนประชากรช้าง ที่เพิ่มขึ้นคาดในปี 2560 มีจำนวนช้างในพื้นทีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กว่า 400 ตัว ซึ่งเพิ่มจากปี 2545 ที่เคยเก็บข้อมูลช้างมีเพียง 250 ตัว ขณะเดียวกันแหล่งน้ำ และโป่งช้างก็ลดลงด้วยเช่นกัน สืบเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงไป จึงทำให้ช้างป่าที่มีจำนวนมากขึ้นต้องออกมาหากินยังพื้นที่ด้านล่าง
“หมอล๊อต” ระบุอีกว่า จากการได้รับข้อมูลจากชาวบ้านและเจ้าหน้าที่อุทยานฯที่เก็บภาพและติดตามพฤติกรรมช้างป่าในพื้นที่ตำบลสาริกา สามารถแยกช้างที่ลงมาได้ 3 กลุ่ม คือ “กลุ่มตัวผู้ใหม่” ที่ยังไม่เคยมีการทำประวัติ ที่แยกออกมาจากฝูง หลังเจริญเติบโตเต็มที่ โดยจะอาศัยตามแหล่งน้ำ เพราะช้างจะขาดน้ำได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง “กลุ่มช้างฝูง” ที่จะมีจ่าฝูงและลูกช้าง ที่จะออกมาหากินในพื้นที่ราบ โล่ง จึงพบเห็นตามรีสอร์ทและสวนของชาวบ้านที่อยู่บริเวณแนวเขตติดต่ออุทยาน และกลุ่มที่สามเป็น “ช้างป่า 2 ตัว” มีความแปลก คือเป็นตัวผู้ทั้งสอง ที่มีตัวหนึ่งมีอาการเจ็บป่วย ลักษณะตาบอดหรือเป็นต้อที่ตา1 ข้าง โดยพฤติกรรมของช้างป่าเพศผู้ทั้งสอง จะเป็นการพากันออกหากิน โดยช้างตัวแรกที่ปกติจะให้ช้างอีกตัวใช้งวงจับที่หางนำทางออกหากิน ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกที่จะช้างป่าเพศผู้จะอาศัยอยู่ด้วยกัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการอธิบายและทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่จนเกิดความเข้าใจ พร้อมวางแนวทางการช่วยเหลือชาวบ้าน และให้ความรู้ในการอยู่ร่วมกันของคนและช้าง ขณะที่หมอล๊อตได้ให้ความรู้ในการควบคุมสถานการณ์ การผลักดันและเฝ้าระวังช้างป่ากับผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ และมีการจัดตั้งไลน์กลุ่ม “เพื่อนช้าง” เพื่อเป็นการแจ้งเตือนบอกข่าวสารกันในกลุ่ม และทำให้เจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลและเคลื่อนที่เร็วไปควบคุมสถานการณ์ช้างป่าได้ทันที
