วันนี้ (8 ก.ย.60) ผู้สื่อข่าวรายวงานว่า ยาในกระเพาะอาหารมากกว่า 10 เม็ด ที่สัตวแพทย์และผู้ช่วยโรงพยาบาลสัตว์เซ็นเตอร์เพ็ท จังหวัดนครราชสีมา พบในซากสุนัขปอมเมอเรเนียนตัวหนึ่ง เมื่อนำมาตรวจสอบพบว่ายาชนิดนี้ไม่ใช่ยาสำหรับสัตว์ แต่เป็นยารักษาโรคในคน ทีมข่าวพีพีทีวีสอบถามกับสัตวแพทย์หญิง อนงค์นาถ สุตธรรม เจ้าของโรงพยาบาลสัตว์เซ็นเตอร์เพ็ท เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 กันยายน มีลูกค้าคนหนึ่งโทรศัพท์นัดว่าจะพาสุนัขมารักษา หลังจากนั้นประมาณ 30 นาทีก็มาถึง พบว่าสุนัขตายก่อนที่จะมาถึงโรงพยาบาลสัตว์แล้ว จึงแจ้งเจ้าของว่าไม่รู้สาเหตุ รู้แต่เพียงว่าตัวสุนัขสะอาด ไม่มีรอยปัสสาวะ หรือรอยอุจจาระอะไรเลย จึงสันนิษฐานแค่ว่าสุนัขอาจจะเกิดอาการช็อค ระหว่างนั้นเห็นเจ้าของสุนัขพูดคุยกับคนขับรถบริษัทขนส่งสัตว์เลี้ยง ให้รับผิดชอบการสูญเสียจำนวน 5 หมื่นบาท ซึ่งคนขับรถยืนยันว่าก่อนหน้านั้นเพียงครึ่งชั่วโมง ยังเห็นว่าสุนัขแข็งแรงดี จึงแจ้งให้แพทย์ผ่าซากสุนัขตรวจสอบดู และพบเม็ดยาจำนวนมากอยู่ในกระเพาะสุนัข
เมื่อสอบถามว่าใครป้อนยาให้สุนัข คนขับรถบอกว่าเห็นเจ้าของป้อนยาให้ ขณะที่ทางเจ้าของสุนัขโทรศัพท์มาแจ้งว่ายาที่ป้อนเป็นวิตามิน ทางสัตว์แพทย์จึงให้เจ้าของสุนัขนำฉลากยา หรือกระปุกยามายืนยัน เพื่อเขียนในใบชันสูตรเพิ่ม แต่เจ้าของบอกว่าทิ้งไปแล้ว พร้อมกับยืนยันว่าเป็นยาที่ทางโรงพยาบาลสัตว์ในกรุงเทพมหานครให้สุนัขกิน และมาทราบภายหลังว่าเจ้าของสุนัขได้โทรศัพท์ไปขอให้โรงพยาบาลสัตว์ที่กรุงเทพมหานคร เขียนย้อนหลังให้ว่าป้อนยาชนิดนี้ให้สุนัข แต่โรงพยาบาลสัตว์ที่กรุงเทพฯปฏิเสธ ขณะที่เรื่องไม่จบเพียงเท่านี้ เจ้าของสุนัขยังแก้ไขใบผ่าชันสูตรซากสุนัข โดยการเขียนข้อความบางอย่างเพิ่มเข้าไป เกี่ยวกับผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ และความเห็นของแพทย์ผู้ตรวจ
เมื่อเทียบเทียบเอกสารใบชันสูตรของจริง และใบที่ปลอมแปลงขึ้น ในช่องผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ สัตวแพทย์แจ้งว่า “ไม่ได้ตรวจ” แต่ในเอกสารปลอม กลับระบุข้อความว่า “เนื่องจากสุนัขเสียชีวิตแล้ว ผลตรวจเลือดจึงไม่สามารถบอกสาเหตุการเสียชีวิตได้” ส่วนในช่องความเห็นของแพทย์ผู้ตรวจ ใบชันสูตรจริงสัตว์แพทย์ระบุว่า “ได้รับยาเกินขนาด ความดันตกจนทำให้ความดันในลูกตาต่ำอย่างรวดเร็ว” ขณะที่ในเอกสารปลอมระบุว่า “สุนัขเสียชีวิตจากเพลียการเดินทาง คาดว่าสาเหตุที่ทำให้ช็อค ตรวจพบความดันในลูกตาต่ำ”
ขณะที่โรงพยาบาลที่ชันสูตรซากสุนัข จึงตัดสินใจนำเรื่องราวมาโพสต์บนโลกโซเชียลเพื่อเตือนภัย ก็พบว่ามีโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา แจ้งว่าเคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้เหมือนกนั แต่ไม่ได้ผ่าพิสูจน์จึงไม่ทราบสาเหตุการตาย และได้ส่งรูปมาให้ดูจึงพบว่าเป็นคนเดียวกัน อีกทั้งมีร้านขายสุนัขโทรศัพท์มาบอกว่า ลูกค้ารายนี้เพิ่งซื้อสุนัขพันธุ์ปอมตัวดังกล่าวไปในราคา 6,500 บาท แต่โอนเงินเข้าบัญชีร้านขายสุนัขจำนวน 50,000 บาท เพื่อให้ทางร้านออกใบเสร็จให้ว่าซื้อสุนัขไปในราคา 50,000 บาท
