วันนี้ (23 ก.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย และมีนักวิชาการอย่าง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญญา เทวนฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและความยั่งยืน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาร่วมแลกเปลี่ยน แสดงความเห็นต่อทิศทางการเมืองไทย
ในการเสวนา มีประเด็นที่ทั้ง 3 พรรค มองตรงกัน คือ จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครกล้าบอกว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้น ภายในปี 2561 ตามโรดแมปของ คสช.หรือไม่ เพราะกระบวนการนำไปสู่การเลือกตั้งยังมีอีกหลายขั้นตอน และที่ผ่านมาโรดแมป ถูกเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด เช่น การที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจะเสร็จเมื่อไหร่ในเวลานี้ ทุกฝ่ายเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. บอกให้ชัดเจนว่า จะมีเลือกตั้งในปีหน้าจริงหรือไม่
ส่วนประเด็นการร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ที่ถูกพูดถึงกันมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ เปลี่ยนบทบาทอย่างชัดเจนในการลงพื้นที่ก่อนการประชุม ครม.สัญจร 2 ครั้งหลังสุด รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังยืนยันว่า ก่อนการเลือกตั้ง ก็ต้องเสนอชื่อหัวหน้าพรรคการเมือง ไปเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ ต้องรอดูผลคะแนนหลังการเลือกตั้ง เพราะจะเป็นตัวบ่งชี้หน้าตาของรัฐบาลชุดใหม่
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ บอกว่า ปัจจัยที่จะบ่งชี้หน้าตาของรัฐบาลชุดใหม่ สามารถเห็นได้ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง เพราะมีกติกาหลายข้อที่ถูกวางไว้ และผูกมัดการทำงานของรัฐบาลใหม่ ด้านหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า หากพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์จับมือกันตั้งรัฐบาลจริง พรรคภูมิใจไทยจะเลือกไปเป็นฝ่ายค้านทันที และไม่เชื่อว่า หากนายกรัฐมนตรีมาจากการผลักดันของ ส.ว.250 คน จะไม่สง่างาม และไม่สามารถประคองตัวอยู่ได้อย่างแน่นอน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญญา มองตรงกันว่า คะแนนเสียงหลังการเลือกตั้ง จะไม่มีพรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมาก และมี ส.ว.เป็นตัวแปรที่สำคัญ แค่จะกลายเป็นการทำงานแบบคู่ขนานระหว่างพรรคแกนนำ และกลุ่ม ส.ว. 250 คน