เมื่อวันที่ (25 ก.ย. 60) L’Arc ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องประดับที่มีแรงบันดาลใจมาจากมัสยิดแห่งกอร์โดบาที่เป็นมรดกโลกชิ้นนี้ เป็นผลงานการออกแบบฝีมือคนไทยที่พึ่งชนะการประกวดออกแบบกับแบรนด์ชั้นนำของโลกอย่าง ชาวารอฟกี้ เจมส์โตน การันตีอีก 1 ผลงานของคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
หากจะพูดถึงอุตสาหกรรมเครื่องประดับในบ้านเรา โดยเฉพาะพลอยสี และเงิน ประเทศไทยมีการผลิตและส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นอันดับ 3 รองจากยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ รวมมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันให้ไทยก้าวสู่ฮับ หรือ ศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลกในอีก 3 ปีข้างหน้า
แม้ว่าทิศทางที่วางไว้มีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะปัจจุบันมีแหล่งวัตถุดิบ การออกแบบและการผลิตที่ดี แต่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันไทยยังคงขาดแคลนแรงงานฝีมือทางด้านการผลิตชิ้นงานอยู่อีกมาก ทำให้การผลิตผลงานแต่ละชิ้นยังต้องใช้เวลา
นายกสมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทย เปิดเผยว่า เป้าหมายของรัฐบาลไทยที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอัญมณีและเครื่องประดับโลกภายใน 3 ปี อาจจะยังเร็วเกินไป เพราะยังมีผู้ประกอบการขนาดเล็กอีกมากที่ยังต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะลดภาษีในการซื้อวัตถุดิบภายในประเทศ และการทำการตลาดเพิ่มเติม
สิ่งที่ผู้ประกอบการบอกเป็นเสียงเดียวกัน คือ ขณะนี้ทุกคนมีความพร้อม เพราะหลายบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากนานาชาติแล้ว แต่ผู้ประกอบการเองก็จะต้องเข้าใจปัญหาและอุปสรรคของตัวเองและผู้ซื้อก่อน ขณะเดียวกันรัฐบาลจะต้องกำหนดแนวทางที่ชัดเจน ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ ยังเตรียมจัดงานประชุมอัญมณีระดับโลกในเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดมีผู้เข้าร่วมจากทั่วโลกกว่า 400 ราย เพื่อโชว์ศักยภาพของไทยและผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลกภายในปี 2564
ฮานีฟ สาแลมิง ถ่ายภาพ
ขวัญ โม้ชา รายงาน