ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพที่ผู้ใช้ชื่อ KoBzaa นำภาพจากกล้องมือถือที่บันทึกไว้ ขณะรถยนต์ เชฟโรเลต ครูซ ป้ายทะเบียน ขท 3860 ชลบุรี สีขาว ซึ่งภายในมีชายรูปร่างสูงใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนขายาว จอดรถแล้วลงมาคุยกับแขกที่เดินลากกระเป๋าเดินทางมา เพื่อจะขึ้นรถ สร้างความไม่พอใจให้กับแท็กซี่ที่อยู่บริเวณนั้น จึงได้เดินเข้ามาถ่ายคลิปไว้ ความยาวประมาณ 4 นาที
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวมีการต่อว่ากันด้วยคำรุนแรง ก่อนที่คนขับรถ อูเบอร์ พยายามขับรถพุ่งชนคนถ่ายคลิป จากนั้นไม่นานทั้งแท็กซี่และอูเบอร์ก็มีปากเสียงกัน ก่อนจะชกต่อย จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องออกมาช่วยกันห้ามปราม แต่ก็ไม่เป็นผล
ล่าสุดทีมข่าวพีพีทีวี ได้ติดตามตัวคนขับแท็กซี่ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุกลุ่มคนขับรถแท็กซี่รู้ว่ารถอูเบอร์คันดังกล่าว กำลังจะไปรับลูกค้า จึงเดินทางไปถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน เพื่อแจ้งตำรวจ แต่คนขับรถอูเบอร์พยายามขับรถชน จึงมีปากเสียงกัน จนเกิดการชนต่อยตามคลิป เบื้องต้นนำหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีกับรถอูเบอร์แล้ว
ส่วนกรณีที่ติดกล้องหรือถ่ายคลิปรถอูเบอร์นั้น ทางกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ระบุว่า เพื่อใช้เป็นหลักฐานการแจ้งความเอาผิดกับรถอูเบอร์ ซึ่งเป็นรถที่ผิดกฏหมาย ส่วนปัญหาระหว่างแท็กซี่กับรถอูเบอร์ในเมืองพัทยานั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข เพราะปัจจุบันมีรถอูเบอร์วิ่งในเมืองพัทยากว่า 100 คัน
กรมขนส่งฯ ขอความร่วมมือแท็กซี่ขึ้นทะเบียนให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น ลดปัญหาอูเบอร์ผิดกฎหมาย
ขณะที่ทีมข่าวได้ทดลองเรียกใช้บริการอูเบอร์ และสอบถามถึงความรู้สึกของผู้ที่มาให้บริการ เขาบอกว่าไม่ได้รู้สึกกลัว และที่เลือกมาให้บริการอูเบอร์ เพื่อหารายได้เสริม โดยส่วนตัวไม่เคยมีปัญหากับแท็กซี่ เพราะไม่ได้ล้ำเส้นการให้บริการลูกค้า จึงขอความเห็นใจภาครัฐช่วยผลักดันให้บริการอูเบอร์เป็นบริการถูกกฎหมาย
“รู้สึกดีที่มาทำอูเบอร์ เพราะเป็นการหารายได้เสริมมาจุนเจือครอบครัว ส่วนตัวไม่รู้สึกกังวลเลยที่มาทำอาชีพนี้ จึงอยากให้การทำอูเบอร์ถูกกฎหมายในไทย”
ด้านนายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุว่ารับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และเร่งติดตามคดี หากพบว่าแท็กซี่กระทำผิดก็จะพักใช้ใบอนุญาต ส่วนแนวทางแก้ปัญหาระยะยาว กรมการขนส่ง เตรียมประกาศใช้กฎกระทรวง ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ โดยขอความสมัครใจให้แท็กซี่ไปขึ้นทะเบียนการเรียกใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งมีค่าขึ้นทะเบียนเริ่มต้นหลักหมื่นขึ้นไป โดยเชื่อว่าแนวทางนี้จะทำให้ประชาชนเลิกใช้อูเบอร์ไปเอง