สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนกว่า 48,000 คน ที่อาศัยอยู่โดยรอบภูเขาไฟอากุง บนเกาะบาหลี ในรัศมี 12 กิโลเมตร พากันอพยพไปยังที่ปลอดภัย เช่น ศาลากลางประจำเมือง และโรงเรียน หลังจากหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยแห่งอินโดนีเซียประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการตรวจพบแรงสั่นสะเทือนหลายร้อยครั้ง และพบสัญญาณว่าหินหลอมเหลว หรือแมกมา เคลื่อนขึ้นมาเข้าใกล้พื้นผิวโลกมากขึ้น และอาจปะทุขึ้นมาได้ทุกเมื่อ
นอกจากนี้ นักธรณีวิทยายังสังเกตพบควันกำมะถันหนาแน่น พ่นออกมาสูงหว่า 200 เมตร เหนือปล่องภูเขาไฟ ซึ่งควันเหล่านี้ไม่เคยเกิดมาก่อน ทางการอินโดนีเซียสามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือนตื้นๆ ได้ ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม แต่ไม่ได้ประกาศเตือนภัยสูงสุดจนกระทั่งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ภูเขาไฟอากุงนี้ มีความสูงกว่า 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อยู่ทางตะวันออกของเกาะบาหลี ห่างจาก “หาดกูตา” และ “หาดเซมินยัก” สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อราว 70 กิโลเมตร ทั้งนี้ ภูเขาไฟอากุง เคยเกิดการปะทุครั้งล่าสุดเมื่อปี 1963 ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,000 คน
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยวและเที่ยวบินต่างๆ ในพื้นที่ โดยเที่ยวบินต่างๆ ที่เข้า-ออก เกาะบาหลี ยังสามารถให้บริการตามปกติ รวมทั้งบริการเรือข้ามฝากระหว่างเกาะลอมบอกและเกาะชวา ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาใช้บริการ ก็ยังเปิดทำการตามปกติ
ขณะที่หลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ เริ่มประกาศเตือนให้ประชาชนติดตามการประกาศยกเลิกเที่ยวบินของสายการบินและคำสั่งอพยพอย่างใกล้ชิด โดยประเทศอินโดนีเซียมีภูเขาไฟที่มีพลังราว 130 ลูก เป็นหมู่เกาะมีแนวโน้มที่จะเกิดการปะทุของภูเขาไฟและแผ่นดินไหว เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณ “วงแหวนแห่งไฟ”