วันนี้ (1 ต.ค.60) ผู้สื่อข่าวพีพีทีวี รายงานจากประเทศอินโดนีเซีย ว่า แม้ทางการอินโดนีเซียจะยังคงการประกาศเตือนภัยภูเขาไฟอากุงระเบิดในระดับสูงสุดตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่รัฐบาลได้ประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่สีเหลือง คือ ห่างจากภูเขาไฟ 9-12 กิโลเมตร กลับไปใช้ชีวิตที่บ้านได้ตามปกติ หลังมีรายงานว่าศูนย์ผู้อพยพเริ่มแออัด
ชาวบ้าน นอกรัศมี 9 กิโลเมตรจากภูเขาไฟอากุง หรือผู้ที่อาศัยในเขตพื้นที่สีเหลือง เริ่มกลับเข้าพักในบ้านของตัวเองตามปกติ ทำให้หมูบ้านแห่งนี้ เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยขณะนี้รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศให้เฉพาะผู้ที่อาศัยในเขต 9 กิโลเมตร หรือเขตอันตรายสีแดง จาก 27 หมู่บ้าน จำนาน 70,000 คนเท่านั้น ที่สามารถพักพิงในศูนย์ที่รัฐบาลตั้งไว้ได้ เพราะยังต้องเฝ้าระวังเหตุภูเขาไฟระเบิดในระดับสูงสุด ส่วนชาวบ้านในเขตพื้นที่สีเหลือง หากเกิดภูเขาไฟระเบิด จะยังสามารถอพยพออกมาได้ทันภายใน 2 ชั่วโมง
สำหรับในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวนั้น ยังไม่มีรายงานผลกระทบ เนื่องจากพื้นที่ท่องเที่ยวหลักอยู่ห่างจากรัศมีอันตรายของภูเขาไฟอากุง เช่น หาดกูตาร์ และสนามบิน เดนบาร์ซาร์ อยู่ห่างภูเขาไฟลูกนี้ มากกว่า 60-70 กิโลเมตร เว้นแต่ว่า หากเกิดการปะทุขึ้น แล้วทิศทางลมพัดมาทางตอนใต้ของเกาะบาหลี ก็อาจส่งผลต่อทัศนวิสัยในการบินทำให้ต้องปิดสนามบิน แต่นักท่องเที่ยวยังสามารถนั่งเครื่องบินมาลงที่สุราบายา ซึ่งอยู่ใกล้บาหลีมากที่สุด โดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถ 1 วัน
ล่าสุด ภาคธุรกิจท่องเที่ยวอินโดนีเซีย กระทรวงการท่องเที่ยวและป้องกัน บรรเทาสาธารณภัยได้วางแผนเตรียมรับมือดูแลนักท่องเที่ยวหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินไว้แล้ว
จากรายงานของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอินโดนีเซียระบุว่า แผ่นดินไหวที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของหินหนืดใต้ภูเขาไฟอากุง แรงสุดคือ เมื่อวันที่ 27 กันยายน ช่วงบ่ายโมง มีขนาด 4.3 หลังจากนั้น จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีรายการแผ่นดินไหวที่แรงกว่านี้