วันนี้ (3 ต.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมายืนยันว่า ร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยรัฐบาลไม่ได้มีแนวคิดที่จะเก็บค่าน้ำเกษตรกรเพิ่ม ส่วนข่าวที่หลุดออกไปและสร้างความสับสนให้กับเกษตรกรว่าจะเก็บค่าน้ำเท่านั้นเท่านี้ พลเอกประวิตร ได้สั่งการให้ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ชี้แจงข้อเท็จจริงกับประชาชน
ด้านนายวรศาสน์ อภัยพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ บอกว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อบริหารการใช้น้ำนอกพื้นที่ชลประทาน มาตราที่มีปัญหาขณะนี้ คือ มาตรา 39 ที่ว่าด้วยการแบ่งประเภทเกษตรกรระหว่างทำเพื่อเลี้ยงชีพหรือพาณิชย์ ส่วนในรายละเอียดอัตราการเก็บค่าน้ำในกลุ่มประเภทต่างๆ จะถูกนำไประบุไว้ในพระราชกฤษฎีกา หรือกฎกระทรวง หลังพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำถูกบังคับใช้แล้ว
ปัจจุบันประเทศไทยได้พัฒนาพื้นที่เขตชลประทานไปกว่า 30 ล้านไร่ ใช้ พ.ร.บ. ชลประทานหลวง พ.ศ.2485 ในการดูแล แต่ก็มีพื้นที่เกษตรกรรมนอกเขตชลประทานอยู่ถึง 119 ล้านไร่ ซึ่งมากกว่า 4 เท่า และแต่ละปีมีพื้นที่เกษตรกรรมที่หาแหล่งน้ำยากอยู่ประมาณ 350,000 ไร่ เพราะเป็นพื้นที่ปลายน้ำ ซึ่ง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำนี้จะมาช่วยกำกับดูแลเกษตรกรที่เดือดร้อนจากการขาดน้ำ เพราะต้นน้ำส่วนมากที่เป็นพื้นที่สูงชันจะสร้างเป็นโรงแรม รีสอร์ต หรือสถานที่พักตากอากาศ