พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่มเติมในข้อหาเข้าออกราชอาณาจักรไม่เป็นไปตามช่องทางที่กำหนด หลังหลบหนีคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งหลังจากนี้จะส่งประกาศสืบจับไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ รวมถึง ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ทุกด่าน ส่วนการดำเนินคดีกับบุคคลที่พาหลบหนี อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ส่วนกรณีการประสานตำรวจสากล ขอหมายแดง หรือ หมายต้องการตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอให้สอบถามกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. โดยตรง เนื่องจากผบ.ตร.เป็นผู้รับผิดชอบด้วยตัวเอง
ด้านนายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ราย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าปัจจุบันพนักงานสอบสวนได้ส่งเบาะแสมาเพียงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีอยู่ประเทศไหน ซึ่งเป็นไปตามข่าวที่ปรากฏตามสื่อมวลชนรายงาน แต่ทางอัยการยังไม่ได้รับคำขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการจากพนักงานสอบสวนต้องที่ต้องระบุให้ชัดเจนว่า ข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ คืออะไร เป็นคดีทางการเมือง หรือทางทหาร หรือคดีทุจริต ผลคำพิพากษาเป็นอย่างไร ข้อเท็จจริงคดีนี้เป็นมาอย่างไร สถานที่แน่ชัดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ที่ไหน
ส่วนสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่จัดทำขึ้นเมื่อ ร.ศ.130 (ประมาณ พ.ศ.2455) ระหว่างประเทศไทยกับอังกฤษยังมีผลบังคับใช้อยู่หรือไม่ นายอำนาจ กล่าวว่า ยังมีผลบังคับใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน และสัญญาดังกล่าวเปิดช่องว่า ถ้าทั้งสองประเทศมีกฎหมายร่วมกัน สามารถขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ โดยกฎหมายของประเทศอังกฤษ กำหนดเรื่องคดีทุจริต หรือข้อหาที่เกี่ยวกับการปล่อยปละละเลยอยู่ด้วย เพราะคดีทุจริตเป็นกฎหมายที่ทุกประเทศทั่วโลกต้องบัญญัติไว้
นายอำนาจ กล่าวอีกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกศาลฎีกาฯพิพากษาแล้ว และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าสู่กระบวนการไต่สวนของศาลทุกนัด ดังนั้นแม้จะอ้างว่าเป็นคดีทางการเมือง แต่ประเทศไทยอธิบายได้แน่ว่า เป็นเรื่องของคดีทุจริต และหากพนักงานสอบสวนส่งคำขออย่างเป็นทางการมาแล้ว นายอำนาจ กล่าวว่า จะเชิญบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และคนที่มีประสบการณ์ประสานงานกับประเทศอังกฤษมาเป็นคณะทำงาน โดยมีตนเป็นประธาน