ม.หอการค้าไทย เผย กินเจปีนี้เงินสะพัดกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ปีนี้คนไทยกินเจเพิ่มขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ด้าน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดมีเงินสะพัดกว่า 45,000 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลกินเจปี 2560 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,177 คนทั่วประเทศ พบว่า ในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้จะมีเงินสะพัดกว่า 45,081 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อน 2.5 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากราคาอาหารเจและวัตถุดิบที่ทำอาหารเจสูงขึ้น โดยกลุ่มตัวอย่าง 36.5 เปอร์เซ็นต์ จะรับประทานอาหารเจในช่วงเทศกาลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และตั้งใจทำบุญ รวมถึงรับประทานอาหารเจเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนที่เหลือ ระบุว่าไม่รับประทานอาหารเจ เนื่องจากอาหารเจแพง และที่บ้านไม่มีใครรับประทาน รวมถึงมองว่าเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น

โดยค่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจจะเฉลี่ยอยู่ที่ 10,245 บาท/คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 9,700  บาท/คน หรือเพิ่มขึ้น 545 บาท ทั้งนี้ เม็ดเงินที่สะพัดในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่กว่า 45,000  ล้านบาท แม้ว่าจะเป็นเม็ดเงินที่สูงสุดตั้งแต่ทำการสำรวจมาในปี 2551 แต่หากมองในด้านของการขยายตัวที่อยู่ 2.5เปอร์เซ็นต์ นั้น ถือว่าขยายตัวต่ำกว่าอัตราการขยายตัวในปีก่อนที่ขยายตัวถึง 4.2เปอร์เซ็นต์ สะท้อนให้เห็นว่าคนยังระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยอยู่ เพราะข้าวของมีราคาแพงขึ้น ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มมีการฟื้นตัวแต่เปราะบาง ไม่โดดเด่น

ทั้งนี้ส่วนผลสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย ปี 2560  ปัจจุบันครัวเรือนกว่า 91.1เปอร์เซ็นต์ ยังคงมีหนี้สินอยู่ มีเพียง 8.9 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นที่ไม่มีหนี้สิน โดยครัวเรือนที่ยังมีหนี้ ส่วนใหญ่เป็นหนี้เพื่อการใช้จ่ายทั่วไป รองลงมาเป็นหนี้เพื่อซื้อทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ และบ้าน รวมถึงชำระหนี้เก่า โดยจำนวนหนี้สินต่อครัวเรือนรวมในปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 299,266 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้น 0.4เปอร์เซ็นต์ จากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งเป็นหนี้ในระบบ 74.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่หนี้นอกระบบอยู่ที่ประมาณ 26.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสัดส่วนผู้ที่เป็นหนี้ในระบบเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา และทำให้ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบลดลงมากสุดในรอบ 10 ปี

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในอีก 1 ปีข้างหน้า ผู้เป็นหนี้นอกระบบจะลดลง จากมาตรการในการกำกับดูแลหนี้นอกระบบของภาครัฐ โดยประชาชนมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น โดยครัวเรือนมีความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือนอยู่ที่ 15,438 บาท

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ