ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุปสรรคใหญ่ของการป้องกันมวลน้ำจากสระเก็บน้ำหนองโสน ไม่ให้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ใกล้เคียง คือการต้องใช้เวลาวางกระสอบทรายขนาดใหญ่และสร้างคันดินใหม่เพื่ออุดรอยรั่วยาว 15 เมตรนาน 1 วันเต็ม แม้การประเมินของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นจะการันตีได้ว่า มวลน้ำ กว่า 3 แสนลูกบาศก์เมตรที่ทะลักไป จะไม่ทำให้น้ำท่วมเขตเมืองสำคัญ แต่ปริมาณฝนที่จะตกลงมาซ้ำก็ยังเป็นตัวแปรสำคัญของการควบคุมสถานการณ์
ทั้งนี้ สภาพคันดินที่มีรอยขาดประมาณ 15 เมตร จากการพังถล่มเพราะแบกรับน้ำฝนหลายวัน เป็นปัญหาใหญ่ของสระเก็บน้ำห้วยโสน ในตำบลเพนียด อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี เพราะทำให้มวลน้ำกว่า 3 แสนลูกบาศก์เมตร จากความจุ 6 แสนลูกบาศก์เมตรไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ใกล้เคียง จนทำให้น้ำในสระเหลือน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะเจ้าหน้าที่ใช้เวลานาน 1 วันเต็มกว่าจะอุดรอยรั่วด้วยถุงทรายขนาดใหญ่พร้อมการถมดินทับด้วยรถแบ็คโฮ
สำหรับคันดินที่พังถล่มลงมาจนทำให้น้ำทะลักออกจำนวนมาก ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่10 ยอมรับว่า เป็นเพราะฝนตกหนัก และแนวคันดินที่อยู่อบสระเก็บน้ำหนองโสน 40 ไร่ ไม่ได้มีการใช้แรงบีบอัดให้ดินแน่น เป็นเพียงการขุดและถมวางล้อมไว้เท่านั้น เพราะมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ
ส่วนมวลน้ำกว่า 3 แสนลูกบาศก์เมตรจะทำให้น้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญหรือชุมชนใกล้เคียงหรือไม่ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 10 ระบุว่า ไม่กระทบแน่นอน เพราะน้ำจะไหลผ่านคลองห้วยปลาหมอ เขต อ.โคกสำโรง ไปบรรจบคลองสนามแจง อ.บ้านหมี่ ที่มีการพร่องน้ำไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ขอให้คนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำเตรียมพร้อมรับมือตลอดเวลา เพราะยังอยู่ในฤดูฝน
ขณะที่ ปริมาณน้ำในสระเก็บน้ำหนองโสนที่เหลือน้อยลงจะมีผลกับการใช้น้ำเพื่อพืชไร่การเกษตรช่วงฤดูแล้ง หรือ ยามที่จำเป็นหรือไม่ ได้รับคำชี้แจงว่าจาก ผอ.สำนักชลประทานที่ 10 ว่า ช่วงเวลาที่เหลือเกือบ 2 สัปดาห์ หากฝนตกหนักเชื่อว่าจะมีมวลน้ำเพิ่มขึ้น