ทีมแพทย์เตรียมวางแผนเคลื่อนย้ายช้างป่าไปรักษาที่สถาบันคชบาล ลำปาง

เมื่อวันที่ (19 ต.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  หลังจากที่เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และสัตวแพทย์ สามารถช่วยเหลือช้างป่าขึ้นจากคลองชมพูได้แล้ว และได้ให้วิตามิน เกลือแร่ และยาบำรุง เพื่อฟื้นฟูร่างกาย ผ่านทางเข็มขนาดใหญ่เจาะเข้าไปที่ต้นคอช้าง พร้อมทั้งวางแผนเร่งประสานงานนำรถบรรทุกขนาดใหญ่มาลำเลียงช้าง เพื่อส่งไปพักฟื้นที่โรงพยาบาลช้างลำปาง ล่าสุดทีมคณะทำงานและทีมแพทย์กำลังวางแผนการเคลื่อนย้ายช้างป่า เพื่อพาไปรักษาที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ จังหวัดลำปาง  แต่เนื่องด้วยช้างป่ามีอาการเจ็บขาหลังทั้ง 2 ข้าง ทำให้การเคลื่อนย้ายไปเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยทีมแพทย์อยู่ระหว่างการวางแผนอย่างละเอียด เพราะช้างเป็นช้างป่าทำให้มีนิสัยดุร้ายกว่าช้างบ้าน

สำหรับช้างป่าตัวนี้อยู่ในท่ายืนได้ด้วยเชือกขนาดใหญ่ และแรงยกจากรถแบคโฮ โดยช้างอยู่ในลักษณะนี้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากสัตวแพทย์พิจารณาว่าควรให้ช้างป่าตัวนี้ อยู่ในท่าทางที่สบายตามธรรมชาติของช้างป่า นั่นคือท่ายืน ช้างป่าตัวนี้เป็นช้างตัวผู้ ไม่มีงา เรียกว่าช้างสีดอ มีอายุมากกว่า 10 ปี 

จากข้อมูลจากสัตวแพทย์ในชุดช่วยเหลือช้างป่า ระบุว่า นอกจากขาหลังที่ไม่สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 ข้างแล้ว ทางทีมแพทย์ได้ให้ยาบำรุง ยาแก้ปวด และวิตามิน กับช้าง ตอนนี้ช้างเริ่มกินอาหารได้บ้าง จากการสังเกตพบว่า ช้างตัวนี้ สามารถกินอาหารได้  และปัสสาวะได้ แต่ยังไม่อุจจาระซึ่งอาจจะมีจากหลายสาเหตุ ทั้งเรื่องของระบบขับถ่ายมีปัญหาภายใน หรือจากการที่ช้างตัวนี้ไม่ได้กินอะไรเลยตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา น้ำหนักของช้างคาดว่าอยู่ที่ 4-5 ตัน

ขณะนี้ชุดช่วยเหลือจากทุกส่วนงานที่รับผิดชอบ กำลังอยู่ระหว่างการประสานงาน และวางแผนในการลำเลียงเคลื่อนย้ายช้างตัวนี้ไปดูแลต่อที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ ที่จังหวัดลำปาง ทีมช่วยเหลือช้างป่าระบุว่าจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างโดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของช้างในการขนย้าย อุปสรรคสำคัญที่สุดคือช้างตัวนี้ เจ็บขาหลังทั้ง 2 ข้าง และเป็นช้างป่า ดุร้าย แต่จะพยายามเคลื่อนย้ายให้เร็วที่สุด โดยคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้