เมื่อวันที่ (22 ต.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้เขื่อนเจ้าพระยาจะไม่ปล่อยน้ำเพิ่มแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใต้ในพื้นที่ใต้เขื่อนเจ้าพระยา จะไม่ได้รับความเดือดร้อน อย่างในตำบลสรรพยา จ.ชัยนาท ที่พบว่าการที่น้ำไม่ไหลทำให้น้ำที่ท่วมขังเริ่มเปลี่ยนสีกลายเป็นน้ำเน่า รวมถึงชาวบ้านยังต้องขึ้นมาอยู่บนถนนแบบนี้ ขณะที่ข้อมูลเรื่องการแจ้งเตือนระดับน้ำว่าจะสูงขึ้นมากน้อยแค่ไหน ชาวบ้านทั้งเหนือเขื่อนและใต้เขื่อนเจ้าพระยา พูดเหมือนกันว่าข้อมูลยากต่อการทำความเข้าใจ
น้ำที่ท่วมขังเกือบ 1 เดือนในเขตตำบลโพนางดำออกและตำบลใกล้เคียง ของ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท น้ำเริ่มนิ่งและเปลี่ยนสีเป็นสีดำ นั่นหมายความว่า น้ำที่ท่วมขังเริ่มเน่าเสีย ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า อาจให้กรมชลประทานปล่อยน้ำเพิ่ม เพื่อให้น้ำที่เน่าไหลออกจากพื้นที่ เพราะการไม่เพิ่มการปล่อยน้ำแบบนี้ทำให้คนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ กำลังเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาสุขภาพ
ขณะที่บ้านเรือนส่วนใหญ่ของชาวบ้านที่นี่ถูกน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ชาวบ้านต้องออกมาตั้งเต็นท์อยู่อาศัยริมถนนนานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ปัญหาอีกอย่างที่พบคือ จุดนี้ไม่มีไฟรายทางทำให้กังวลว่าในช่วงกลางคืนอาจเกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ยังพบว่าปัญหาที่ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่แบบนี้เป็นเพราะชาวบ้านไม่ได้รับข้อมูลปริมาณน้ำที่ชัดเจน ทำให้ก่อนหน้านี้ชาวบ้านระดมกำลังก่อแนวกระสอบทรายสูงกว่า1เมตร ด้วยความหวังว่าจะสามารถป้องกันน้ำไม่ให้ท่วมบ้านได้ แต่สุดท้ายความพยายามก็สูญเปล่า
ส่วนพื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่อ.ธรรมามูล จ.ชัยนาท ชาวบ้านยังคงช่วยกันเสริมแนวกระสอบทรายเพิ่มเติม เพราะน้ำจากนครสวรรค์กำลังไหลมาสมทบเพิ่มเติม ซึ่งการแจ้งข่าวของหน่วยงานราชการไม่ได้บอกว่าน้ำจะเพิ่มสูงกี่เซนติเมตร ทำให้ชาวบ้านต้องนำข้อมูลของกรมชลประทานที่ระบุว่าน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำกี่ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที มาประเมินสถานการณ์
สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ปล่อยน้ำ 2,598 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เท่ากับเมื่อวานนี้ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีท่าทีจะเพิ่มการปล่อยน้ำ แค่แม้ว่าจะไม่ได้ปล่อยเพิ่มลงมาในพื้นที่ท้ายเขื่อน ปริมาณน้ำที่ท่วมจังก็เพิ่ทสูงขึ้น เนืองตากเมื่อวานมีฝนตกในพื้นที่