เมื่อวานนี้เวลา 20.30 น. เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าหมู่เกาะลิบงนำโดยนายชัยพฤษ วีระวงศ์หัวหน้าเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ 12 นาย นำซากพะยูนที่เป็นส่วน หนังและไส้ ที่พบที่บริเวณป่าโกงกาง ที่ปากคลองโต๊ะขุน หมู่ที่ 7 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง จากการลาดตระเวนติดต่อกัน 3 วัน 2 คืน จึงนำกลับมาขึ้นฝั่ง เพื่อนำมาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อติดตามหากลุ่มผู้กระทำความผิดล่าและฆ่าพะยูนกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
โดยมีพ.ต.ต.มนตรี ไชยมล ร้อยเวร สถานีตำรวจภูธรกันตัง ได้รับคำร้องทุกข์เพื่อจะออกติดตามกลุ่มผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง ส่วนซากพะยูนที่พบจะนำไปเก็บไว้ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ตรัง โดยทางเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์หมู่เกาะลิบงจะทำบันทึกตรวจยึดซากพะยูนที่พบเพื่อให้ตำรวจประกอบสำนวนคดี คาดว่าพะยูนถูกฆ่าตายประมาณ 2 วันที่ผ่านมา น้ำหนักพะยูนประมาณน้ำหนัก 200 กิโลกรัม
นายชัยพฤษ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง เปิดเผยว่าขณะนี้ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ามีการล่าพะยูนเกิดขึ้นจริง โดยแน่ใจว่าขบวนการล่าพะยูนจะเอาเนื้อไปบริโภคหรือไม่ เพราะกระดูก เนื้อ หัว หายไปหมด เหลือเฉพาะหนังและลำไส้ ทั้งนี้ตั้งแต่มีกฎหมายคุ้มครองในปี พ.ศ.2535 การล่าพะยูนนำมากินผิดกฎหมายลดลง และในรอบที่ตนมาทำงานที่นี่ก็เพิ่งพบพะยูนถูกฆ่าชำแหละเนื้อวันนี้
โดยต่อจากนี้เจ้าหน้าที่ กลุ่มอนุรักษ์จะเพิ่มมาตรการเข้มในการป้องกันและปราบปรามการล่าพะยูน ไม่เช่นนั้นพะยูนตกอยู่ในอันตราย เบื้องต้นจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ 50 คน ดูแลพื้นที่ สองแสนกว่าไร่ ทั้งทางทะเล และบนบก ซึ่งจะขอกำลังสนับสนับสนุนและงบประมาณเพิ่มเติม