เว็บไซต์ดูหนังออนไลน์แอบติดโค้ดขุด “บิทคอยน์” เสี่ยงคอมและมือถือพัง!


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ผู้ใช้งานพันทิป เผย เว็บไซต์ดูหนังออนไลน์เถื่อน แอบติดโค้ดขุด ‘บิทคอยน์ (Bitcoin XMR)’ ไว้ที่หน้าเว็บไซต์ เมื่อคลิ๊กชมภาพยนตร์โค๊ดดังกล่าวก็จะทำงานทันที ชี้ อาจทำให้ซีพียูในคอมพิวเตอร์เสื่อมประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว และในโทรศัพท์มือถือจะเกิดความร้อนสูง จนอาจระเบิดได้

วันนี้ (28 ต.ค.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้งานเว็บไซต์พันทิปชื่อ “นามแอบแผง” โพสต์กระทู้พร้อมข้อความ “ระวังไว้นะครับ ดูหนังออนไลน์ CPU คอมคุณอาจจะพังไม่รู้ตัว” โดยระบุว่า แจ้งเตือนเว็บไซต์ดูภาพยนตร์ออนไลน์อันดับหนึ่ง ติดโค้ดขุด บิทคอยน์ (Bitcoin XMR) ไว้ที่หน้าเว็บไซต์ และหลังจากที่กดคลิ๊กเลือกดูภาพยนตร์ โค้ดดังกล่าวก็จะเริ่มทำการขุด บิทคอยน์ ทันที ซึ่งหากดูบนคอมพิวเตอร์ อาจจะทำให้ซีพียูเสื่อมประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว และหากดูบนโทรศัพท์มือถือ ก็จะทำให้เกิดความร้อนสูง เพราะซีพียูที่ติดตั้งในโทรศัพท์มือถือทำงานหนักเกินไป จนอาจระเบิดได้

“ถ้าคนหนึ่งดู 3 ชั่วโมง หากอันนี้ คือรายได้ ถ้าหากมีคนเข้าเว็บ 50,000 คน/วัน รายได้ตามรูป หากอยู่ในเว็บไซต์ 24 ชั่วโมง กรณีอยู่ในเว็บ 3 ชั่วโมง เอา 8 ไปหาร 24 จะได้ 3 ชั่วโมง ต่อคน เท่ากับมีรายได้เอารายได้ตามรูปมาหารด้วย 8 จะตกราวๆ 14,400 บาท/วัน โดยอันนี้คิดจาก CPU ทั่วๆ ไป ที่มีแรงขุด 200 H/S กรณีขุด XMR หรือ เหรียญ Monero และถ้าขุดด้วย JavaScript แรงขุด จะมีแรงแค่ 1/4 ของ การใช้โปรแกรมขุด อย่าง Nicehash miner , Minergate , Craymore CPU Miner , XMRig , XMR-Stak-CPU กรณีเว็บไซต์ดังกล่าวใช้ CPU 50 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับว่า จะมีแรงขุดราวๆ 50 H/S ต่อคน เอา 50 H/S คูณ 50,000 คน หารด้วย 8 เพื่อให้แต่ละคนใช้เวลาบนเว็บไซต์ดูหนัง 3 ชั่วโมง รายได้จาก Popads ก็ได้ละ มาเอาทางนี้อีก แถมเว็บ Top1 คีย์ ดูหนังออนไลน์” ผู้ใช้งานพันทิปชื่อ นามแอบแผง กล่าว

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวนิวมีเดียพีพีทีวี ได้รวบรวมข้อมูลวิธีการป้องกันเบื้องต้น คือ ติดตั้ง “No Coin” ที่เป็นส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์ สามารถป้องกันการขุดบิทคอยน์จากในเว็บไซต์ได้ ซึ่งเป็นผลงานการพัฒนาของคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “Keraf” และขณะนี้ No Coin ได้เริ่มให้ดาวน์โหลดฟรีแล้วในเว็บเบราว์เซอร์ กูเกิลโครม (Google Chrome)  

ทั้งนี้ บิทคอยน์ คือ สกุลเงินในรูปแบบของดิจิทัล ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่มีรูปร่างและไม่สามารถจับต้องได้เหมือนธนบัตรหรือเหรียญเงินบาท และยังไม่ทราบเป็นที่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้สร้าง โดยปัจจุบันบิทคอยน์ถูกกำหนดไว้ว่าจะผลิตออกมาเพียง 21 ล้านบิทคอยน์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากกลุ่มคนที่เรียกว่า ไมเนอร์ (Miner) ด้วยวิธีการขุดจากกระบวนการยืนยันตรวจสอบ และบันทึกการชำระเงิน ซึ่งใช้หลักการว่า เมื่อมีธุรกรรมการโอนเงินเกิดขึ้น ธุรกรรมนั้นจะต้องได้รับการตรวจสอบว่าเงินที่โอนนั้นมีอยู่จริง และยืนยันโดยเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นในเครือข่ายเพียร์ทูเพียร์ ทั้งนี้ผู้ที่ควบคุมคอมพิวเตอร์ในการทำหน้าที่ดังกล่าวนั้น จะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินบิทคอยน์จำนวนเล็กน้อย ซึ่งด้วยหลักการนี้ทำให้บิทคอยเป็นสกุลเงินที่ไม่ขึ้นกับหน่วยงานรัฐบาลใดและมีค่าธรรมเนียมในการชำระเงินต่ำกว่าการชำระเงินผ่านระบบธนาคาร

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ