อุตุฯ คาด พายุ “ด็อมเร็ย” จะส่งผลกระทบถึงไทย

วันนี้ (3 พ.ย.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดพายุด็อมเร็ย ทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง และกำลังจะเปลี่ยนสถานะเป็นไต้ฝุ่น ขณะที่พายุลูกแรกที่จะเข้าไทยกลับอ่อนกำลังลง แต่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า อิทธิพลของพายุทั้งสองลูกจะยังทำให้ภาคใต้ได้รับผลกระทบหนัก อาจจะเทียบเท่าเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้เมื่อตอนต้นปี 2560 สำหรับพายุลูกแรกที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่า จะเคลื่อนเข้าไทยก่อนหน้านี้ ล่าสุดเคลื่อนผ่านแหลมยวน เข้ามาถึงอ่าวไทยตอนล่าง แต่อ่อนกำลังลงเหลือเพียงหย่อมความกดอากาศต่ำ ที่จะพัดเข้าปกคลุ่มพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย

โดยแม้ความรุนแรงจะไม่รุนแรงเท่าพายุ แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะหย่อมความกดอากาศที่คาดว่าจะมีกำลังแรงนี้ จะส่งผลให้ฝนตกหนักนานต่อเนื่อง ซึ่งปริมาณฝนที่ตกสะสม อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่มได้ โดยเฉพาะพื้นที่ 14 จังหวัดที่กรมอุตุประกาศเตือน ซึ่งหลายจังหวัด อย่างเช่น นครศรีธรรมราช ก็จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ และบริเวณเขาหลวงมา 2-3วันแล้ว

ทั้งนี้อีกหนึ่งจุดที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ พายุ ด็อมเร็ย ที่มาจากชายฝั่งประเทศฟิลิปปินส์ ล่าสุดยังทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะเปลี่ยนสถานะจากพายุโซนร้อน และเป็นพายุใต้ฝุ่นในวันนี้ ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า พายุลูกนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่เวียดนามตอนล่าง ช่วงประมาณวันที่ 4 พฤศจิกายน หลังจากนั้นจะเคลื่อนผ่านประเทศกัมพูชา อ่อนกำลงเป็นพายุโซนร้อน และจะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทย ประมาณวันที่ 6 พฤศจิกายน ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าเมื่อมาถึงประเทศไทย ความรุนแรงของพายุลูกนี้จะอยู่ในระดับใด อาจจะยังเป็นพายุโซนร้อน ดีเปรสชั่น หรือแค่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง แต่ไม่ว่าจะเข้ามาในสถานะใด กรมอุตุนิยมวิทยาก็ระบุว่า อิทธิพลของมันจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยแน่นอน ตั้งแต่ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และภาคใต้บริเวณอ่าวไทย ซึ่งจะมีฝนตกหนักต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามลักษณะเช่นนี้ ทั้งฝนที่มาจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง จากพายุลูกแรก และอิทธิพลจากพายุที่มาจากฟิลิปปินส์ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า พื้นที่ภาคใต้จะมีฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน  นั่นหมายความว่าโอกาสที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน คล้ายกับกรณีบางสะพานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก็เป็นไปได้สูง