สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ร่วมหารือทวิภาคีอย่างเป็นทางการกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว วันนี้ ซึ่งเป็นวันที่สองของการเยือนแดนอาทิตย์อุทัย โดยผู้นำทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าและการทูต รวมถึงภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ในการแถลงข่าวร่วมกัน ทรัมป์ กล่าวว่า ผู้นำญี่ปุ่นจะซื้อยุทโธปกรณ์ทางทหารจำนวนมากจากสหรัฐฯ ซึ่งจะสร้างงานให้แก่ชาวอเมริกัน รวมถึงเสริมความปลอดภัยให้แก่ญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นสามารถยุทโธปกรณ์ที่ซื้อมายิงสกัดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือกลางอากาศได้ ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธระยะไกลข้ามน่านฟ้าญี่ปุ่นถึงสองครั้งสองครา ด้านนายอาเบะ ระบุว่า ญี่ปุ่นต้องเสริมขีดความสามารถในการป้องกันตัวเองทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพ และหากจำเป็น ก็สามารถยิงสกัดขีปนาวุธได้
แต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ในการเยือนญี่ปุ่นของผู้นำสหรัฐฯ ครั้งนี้ มีการลงนามข้อตกลงทางการทหารกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศก็มีความสัมพันธ์ทางทหารที่ใกล้ชิดกันอยู่แล้ว จากการที่สหรัฐฯ มีฐานทัพทหารอยู่ในญี่ปุ่นหลายแห่ง
ส่วนเรื่องการค้า ทรัมป์ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลญี่ปุ่นจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่ย้ำว่า ยังไงญี่ปุ่นก็จะต้องเป็นที่สองรองจากสหรัฐฯ ในด้านเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวก่อนการประชุมร่วมกับผู้นำธุรกิจสหรัฐฯ และญี่ปุ่นว่า ที่ผ่านมาญี่ปุ่นได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐฯ มาโดยตลอด ซึ่งตนจะผลักดันให้ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น มีความเสรีและสมดุล ในลักษณะตอบแทนซึ่งกันและกันมากขึ้น ขณะที่ ปีที่แล้ว ญี่ปุ่นได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ 6 หมื่น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของญี่ปุ่นรองจากจีน ขณะที่ญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกอันดับ 4 ของสหรัฐฯ
สำหรับทั้งสองฝ่ายยังคงเห็นต่างกันว่าจะวางกรอบหารือการค้าในอนาคตอย่างไร เนื่องจากญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ต้องการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีแบบทวิภาคี ขณะที่นายชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่น ยังยืนกรานสนับสนุนข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ TPP
ภาพ : AFP