เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางถึงเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม เพื่อร่วมประชุมผู้นำชาติสมาชิกความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก หรือเอเปค โดย ทรัมป์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยต่อหน้าผู้เข้าร่วมประชุม โดยย้ำว่า สหรัฐฯ จะไม่ยอมให้ประเทศใดทำการค้าอย่างไม่เป็นธรรมอีกต่อไป และการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ทรัมป์ ระบุว่าปัญหาการขาดดุลมีสาเหตุจากการที่สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้าและลดภาษีนำเข้า แต่ประเทศอื่นกลับไม่ปฏิบัติเหมือนสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกัน พร้อมทั้งย้ำว่าข้อตกลงเขตการค้าเสรีทำให้สหรัฐฯ สูญเสียการจ้างงานไปหลายล้านตำแหน่ง
อย่างไรก็ตามทรัมป์ ยืนยันว่า การที่สหรัฐฯ ถูกเอาเปรียบทางการค้าไม่ใช่ความผิดของชาติสมาชิกเอเปค แต่เป็นเพราะรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดก่อนๆ ละเลยไม่แก้ปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ทรัมป์ ยังย้ำว่าพร้อมจะทำสัญญาการค้าเสรีในระดับทวิภาคีกับประเทศที่มีนโยบายทางการค้าที่เป็นธรรม
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติของสหรัฐฯ ระบุว่า ปี 2016 ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับกลุ่มประเทศเอเปค 5 แสน 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 19 ล้านล้านบาท) โดยสหรัฐฯ ขาดดุลให้กับจีนมากที่สุด คือ 3 แสน 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 11 ล้านล้านบาท) ตามมาด้วย ญี่ปุ่น เม็กซิโก เวียดนาม และ เกาหลีใต้ ส่วนไทยอยู่อันดับ 7 ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐฯ 1 หมื่น 8 พัน 9 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6 แสน 2 หมื่น 5 พันล้านบาท)
ขณะที่ ทำเนียบขาว ยืนยันว่า ประธานาธิบดี ทรัมป์ ไม่มีกำหนดพบปะพูดคุยนอกรอบกับ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่เข้าร่วมประชุมเอเปคในวันนี้เช่นกัน แม้จะมีกระแสข่าวว่าทั้งคู่มีแผนจะพบกันระหว่างการประชุมดังกล่าว