ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านที่อ้างว่าถูกหน่วยงานรัฐสั่งห้ามเคลื่อนไหวในการแก้ไขปัญหาการขยายพันธุ์ของปลาหมอสีคางดำในแม่น้ำ หลังเดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยนายปัญญา โตกทอง ตัวแทนชาวบ้านอำเภอแพรกหนามแดง บอกว่า มีทหารติดต่อไปพบที่บ้านพักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการแพร่กระจายของปลาหมอสีคางดำ ที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวเกษตรกรเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้านบอกว่าหลังร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดสมุทรสงครามแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า จึงยื่นหนังสือไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แต่ว่าล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ได้เตรียมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่กระจายของปลาหมอสีคางดำ เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน เบื้องต้นชาวบ้านเสนอให้กรมประมงรับซื้อปลาชนิดนี้ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท และอนุโลมให้เกษตรกรใช้เครื่องมือบางชนิดที่ผิดกฏหมายเพื่อตัดวงจรปลาหมอสีคางดำ ซึ่งขณะนี้กรมประมงกำลังหารือเร่งด่วนพร้อมกำหนดระยะเวลาจัดการปัญหานี้ภายใน 3 เดือน แต่ชาวบ้านบอกว่าอาจจะไม่ทันการเพราะปลาหมอสีคางดำได้ขยายพันธุ์เป็นจำนวนมากแล้ว
ส่วนข้อมูลการลงพื้นที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้อ้างข้อมูลจากกรมประมง พบว่า มีบริษัทเอกชนผลิตอาหารสัตว์แห่งหนึ่ง ที่ขออนุญาตนำเข้าปลาชนิดนี้เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ ซึ่งมีศูนย์วิจัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม แต่ทางเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯแห่งนี้ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายดังกล่าว เพราะปลาทั้งหมดได้ตายและนำไปฝังดินแล้ว