นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในวันนี้ ( 13 พ.ย. 60 ) กระทรวงพาณิชย์ จะเชิญผู้บริหารของ ผู้ผลิตสินค้า ผู้ประกอบการห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีสาขารวมกันไม่ต่ำกว่า 13,500 แห่ง มาหาแนวทางในการจัดทำโครงการมหกรรมลดราคาสินค้า เบื้องต้นจะเน้นการจัดโปรโมชั่นด้วยการลดราคาไม่ต่ำกว่า 20-80% และจะเร่งจัดโครงการให้ใกล้เคียงกับเวลาโครงการช้อปช่วยชาติ ที่สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท ระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายนถึง 3 ธันวาคมนี้
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัด หรือการใช้จ่ายจากโครงการลดราคาสินค้าไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามส่วนรายละเอียดทั้งหมดน่าจะได้ข้อสรุปร่วมกันภายในวันนี้ แต่การลดราคาสินค้าครั้งนี้จะไม่ใช่นำสินค้าเก่า หรือสินค้าที่ขายไม่ออก มาลดราคาล้างสต๊อก แต่จะเป็นสินค้าปกติ และสินค้าใหม่ที่ผู้ประกอบการได้จัดเตรียมไว้สำหรับการขายเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค ของใช้ประจำวัน เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เป็นต้น ซึ่งการลดราคาครั้งนี้ ผู้ที่ยังไม่เข้าเกณฑ์เสียภาษีก็จะได้รับอานิสงส์ในการซื้อสินค้าราคาถูกด้วย
นางสาวภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ระบุว่า จากมาตรการช้อปช่วยชาติที่เพิ่มจำนวนวันในปีนี้ เชื่อว่าจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบได้หลายหมื่นล้านบาท เฉพาะในส่วนของเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล คาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น 20-25% หรือประมาณ 2,800 - 3,000 ล้านบาท พร้อมยืนยันว่าขณะสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาจำหน่ายแต่อย่างใด
ส่วนตลาดสินค้ากระเช้าของขวัญปีใหม่ในภาพรวมคาดว่ามูลค่าจะอยู่ที่ 2,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20% โดยปีนี้ ยังร่วมมือกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา นำสินค้าไอจี หรือ สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เข้ามาจัดกระเช้าปีใหม่เพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนด้วย ส่วนราคากระเช้าปีใหม่ปีนี้ยังเท่ากับปีก่อนอยู่ที่ราคา 295 บาท ถึง 19,000 บาท