สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในการประชุมอาเซม ที่กรุงเนปิดอว์ ในวันนี้ นางอองซาน ซูจี ประธานที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมาร์ เปิดเผยว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในการเจรจากับผู้แทนบังกลาเทศ ที่จะมีขึ้นในวันพุธและพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ เกี่ยวกับผู้อพยพชาวโรฮิงญา จะได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ
นางซูจี อธิบายว่า หากการเจรจาเป็นผลสำเร็จก็จะมีการทำบันทึกความเข้าใจ ในการรับตัวชาวโรฮิงญาที่สมัครใจเดินทางกลับบ้าน แต่กลับไม่มีการพูดถึงอนาคตของชาวโรฮิงญาที่ไม่ต้องการเดินทางกลับเมียนมาร์
สำหรับประเด็นที่ว่า เมียนมาร์จะสร้างนิคมใหม่สำหรับชาวโรฮิงญา ซึ่งไม่ใช่ที่รัฐยะไข่นั้น ทางสหประชาชาติวิจารณ์ว่า เป็นเพียงความพยายามของรัฐบาลเมียนมาร์ ที่จะต้อนชาวโรฮิงญา ให้เข้าไปอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยอย่างถาวรนั่นเอง
“แอมเนสตี”เรียกร้องนานาชาติห้ามขายอาวุธให้เมียนมาร์
ขณะที่วันเดียวกันนี้ องค์กรแอมเนสตี้สากล ได้จัดการแถลงข่าวที่กรุงเทพฯ มีเนื้อความว่า ต้องการให้ประชาคมโลก ร่วมมือกันคว่ำบาตร ด้วยการระงับการขายอาวุธให้กับกองทัพเมียนมาร์ รวมถึงเข้าแทรกแซงธุรกรรมทางการเงิน ต่อเจ้าหน้าที่รัฐของเมียนมาร์ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา
นอกจากนี้ทางองค์กรแอมเนสตี้ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาร์ เคารพในสิทธิของความเป็นคน รวมถึงพิจารณายกเลิกกฎหมายที่ตัดสินคนจากเชื้อชาติและศาสนาที่คนๆ นั้นนับถืออยู่