วันนี้ (30 พ.ย.60) นายศรพล ตุลยะเสถียร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยว่า สศค.ได้รวบรวมข้อมูลและศึกษาผลกระทบจากการ นำปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ มาใช้ในอนาคต โดยพบว่าเอไอจะส่งผล กระทบต่อประเทศไทยและกลุ่มอาเซียนอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานทักษะต่ำในอาเซียนที่คาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้ามีความเสี่ยงที่จะตกงานมากถึง 140 ล้านคน ขณะที่แรงงานไทยสัดส่วน 44 เปอร์เซ็นต์ ของกำลังแรงงานรวมมีความเสี่ยงสูงที่จะตกงาน โดยเฉพาะในสาขาอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เพราะจะถูกเอไอเข้ามาแทนที่
นอกจากนี้ ยังได้ประเมิน 10 อาชีพที่จะถูกเทคโนโลยีเอไอเข้ามาแย่งอาชีพ ประกอบด้วย อาชีพ นักพัฒนาเว็บไซต์ , นักการตลาดออนไลน์ , ผู้ดูแลออฟฟิศ , นักบัญชี , ฝ่ายทรัพยากรบุคคล , นักข่าว , บรรณาธิการ , นักกฎหมาย , แพทย์ และ จิตแพทย์ สำหรับการศึกษาผลกระทบครั้งนี้ สศค.ได้รวบรวมข้อมูลมาจากบริษัท เอคเซนเชอร์ ที่ปรึกษาด้านไอทีของกลุ่มแอปเปิ้ล และองค์การแรงงานระหว่างประเทศของสหประชาชาติ
ขณะที่ นิยามของเอไอ คือ เป็นความรู้ความฉลาดที่สร้างขึ้นมาจากสิ่งที่ไม่มีชีวิต มีการรวบรวมและจัดใส่ข้อมูลซอฟต์แวร์หลากหลายระบบ เพื่อพัฒนาให้สามารถคิดและทำงานในด้านต่างๆ ได้คล้ายมนุษย์ ทั้งการตัดสินใจ การแก้ปัญหา และการเรียนรู้ มีการคาดการณ์ว่าเอไอจะช่วยให้เศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วขยายตัวได้ 1.7 เท่าในปี 2578 ช่วยประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานโลกได้ 30 - 40 เปอร์เซ็นต์
โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ หรือ สสช. เปิดเผยข้อมูลในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า มีผู้ว่างงานรวม 481,000 คน คิดเป็นอัตราว่างงาน 1.3 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 31,000 คน และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 38,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เรียนจบในระดับอุดมศึกษา ที่ว่างงานมากเป็นจำนวนถึง 198,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8,000 คน และถือเป็นกลุ่มผู้ว่างงานสูงมาต่อเนื่องหลายปี