“นิติธร แก้วโต” หรือ “ทนายเจมส์” เปิดเผยในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวว่า คดีลักษณะนี้จะมีข้อความผิดเข้ามาเกี่ยว 2 อย่าง คือ ตามประมวลกฎหมายอาญาเป็นคดีลหุโทษ เป็นเหตุทำร้ายแต่ไม่ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นการทำร้ายร่างกายไม่เป็นอันตรายต่อกายและจิตใจ จำคุก 1เดือน โทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท อีกข้อหนึ่งคือ กฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ห้ามกระทำการอันเป็นการทารุณกับเด็ก ทารุณต่อร่างกายและจิตใจ เมื่อดูจากภาพไม่ใช่เด็กที่โดนทำร้ายคนเดียวที่หวาดกลัว แต่มีเด็กคนอื่นๆในห้องด้วย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท แต่ในกรณีนี้ต้องฟังจากคุณครูด้วยว่าเพราะเหตุใดจึงต้องลงโทษเด็ก
สำหรับการลงโทษเด็กของครูนั้น อำนาจมาจากพ่อแม่เอาไปฝากเลี้ยง อำนาจการดูแลก็จะอยู่ที่ครูด้วย ในการลงโทษเด็กต้องลงโทษตามสมควร เพราะกฎหมายเขียนไว้ว่า ผู้ปกครองสามารถลงโทษบุตรได้ตามสมควร โดยคำว่าตามสมควรต้องดูที่วัยของเด็ก และวิธีการที่จะลงโทษกับเด็ก แต่หากมองจากภาพอย่างเดียวในเหตุการณ์ที่เป็นข่าวก็เป็นวิธีการที่ไม่เหมาะสม เด็กอาจจะคอหักได้ แต่ต้องไปดูว่าเหตุก่อนหน้านี้เด็กกลุ่มนี้ทำอะไรมา คำว่าลงโทษ เช่น ไม้เรียวตีก้น แต่ไม่เคยเห็นวิธีการลงโทษคือการเขย่า กระชาก โดยวิธีการลงโทษนั้นต้องไม่เกิดอันตรายกับตัวเด็ก
กรณีครูคนอื่นที่อยู่ในห้องนั้นจะมีความผิดหรือไม่ ทนายเจมส์ อธิบายว่า เจตนากระทำต่อผู้อื่น กระทำแบ่งเป็น 2 อย่างคือ กระทำทางกายภาพ คือ ตี ต่อย ดึง ส่วนอีกแบบคืองดเว้นการกระทำ ซึ่งหน้าที่ของครู คือป้องกันดูแลคุ้มครองเด้ก เมื่อเขางดเว้นการกระทำก็มีเจตนาให้เด็กถูกกระทำ เหมือน การ์ดตามสระน้ำ ต้องคอยดูว่ามีใครจมน้ำ แต่หากเห็นแล้วนิ่งเฉย ก็แสดงเจตนาว่าอยากให้เขาตาย ก็เช่นเดียวกับกรณีครูพี่เลี้ยงต้องมีหน้าที่ปกป้องดูแลเด็กหากไม่ทำก็เท่ากับว่า มีเจตนาทำร้ายเด็กด้วย แต่ก็ต้องไปดูว่าเขาได้ยินไหม เห็นหรือไม่ จำเป็นต้องไปสอบสวนอีกที
“ส่วนกรณีที่เราไปเห็นภาพครูทำร้ายเด็ก แล้วรู้สึกว่าเกินไป แล้วตัดสินใจโพสต์ลงโลกออนไลน์นั้น ทนายเจมส์ บอกว่า ต้องเข้าใจว่าครู เป็นหนึ่งในบุคคลสาธารณะ เป็นอาชีพที่ประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้โดยสุจริต สามารถเตือนติชมได้ด้วยความเป็นธรรม แต่ต้องไม่ไปพูดเรื่องส่วนตัวของเขา” ทนายเจมส์ แนะนำ
ชมคลิปที่นี่.. ผอ.เขตลาดกระบัง ยอมรับ “คลิปครูทุบเด็กอนุบาล” สอบมาแล้ว 2 เดือนยังไม่รู้ใครผิด