ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือหมอแสง เปิดให้ผู้ป่วยรับยาไปแล้วนานกว่า 10 ชั่วโมง เห็นชัดเจนว่าประชาชนที่มารอตั้งแต่ก่อนเที่ยงคืน ยังคงตกค้างอยู่เต็มถนนหน้าบ้านของหมอแสง เนื่องจากการแจกยารอบนี้ มีผู้มาขอรับยามากถึงกว่า 1 หมื่นคน เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากเดือนที่แล้ว
จากการสอบถามพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และบางส่วนร่างกายไม่ตอบสนองต่อการทำคีโม หรือ การรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน จึงตัดสินใจมารับยากับหมอแสง สอดคล้องกับข้อมูลของทีมวิจัยจากสถาบันการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่เริ่มสุ่มเก็บตัวอย่างผู้ป่วยประมาณ 200 คน พบว่ากว่าครึ่ง ไม่ได้รักษาควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะรักษาจนเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว หรือ กลัวผลข้างเคียงจากการทำคีโมและติดปัญหาเรื่องภาระค่าใช้จ่าย
นอกจากการเก็บข้อมูลผู้ป่วยแล้ว ทีมวิจัยยังได้ไปสุ่มเก็บตัวอย่างยาสมุนไพรของหมอแสง ที่แจกจ่ายให้กับชาวบ้านไปตรวจด้วย โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ยานี้ปลอดภัยหรือไม่ และมีฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งหรือไม่อย่างไร หากผลออกมาในทางบวก ก็อาจจะนำไปสู่การผลิตยาต่อไป