เตือนภัย!! แก๊งคอลเซ็นเตอร์บุกมหา'ลัย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างตัวเป็นไปรษณีย์บุกมหาวิทยาลัยแล้ว ด้านไปรษณีย์ไทย ประกาศเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อกลลวง ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’

วันนี้ (6 ธ.ค.60) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่มหาวิทยาลัยมหิดล พญาไท มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเข้ามาและอ้างว่าเป็นไปรษณีย์มีพัสดุที่จัดส่งมาให้แต่เป็นของผิดกฎหมาย จากการสอบถาม อ.พรรณวจี พยงค์ศรี อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พญาไท เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. - 11.00 น. มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเข้ามาที่สำนักงานโดยอ้างว่า มีพัสดุจากไปรษณีย์ส่งถึง ซึ่งเป็นเหมือนระบบอัตโนมัติที่ระบุว่า ถ้าอยากรู้ให้กด 9 ซึ่งได้ทดลองกดเลข 9 จากนั้นมีคนรับสายโดยถามชื่อ-นามสกุล ก่อนบอกว่ามีคนชื่อนี้นามสกุลนี้ส่งพัสดุมาให้จากจ.พิษณุโลก เมื่อตอบว่าไม่ใช่ของเรา ปลายทางแจ้งเหมือนนำพัสดุเข้าเครื่องเอกซเรย์แล้วบอกว่าเป็นของที่ผิดกฎหมายและให้เจ้าหน้าที่อีกคนโทรมาหา

อ.พรรณวจี กล่าวต่อว่า จากการที่ติดตามข่าวทำให้รู้ว่าพวกนี้เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อถามว่าโทรมาจากไหน ชื่ออะไร ปลายสายจะตอบแบบอ้ำอึ้งและเหมือนไม่อยากตอบ จากนั้นก็ตัดสายเราทิ้งหลังวางสายก็ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตพบมีหลายคนที่เจอแบบนี้ และจากการสอบถามอาจารย์และเจ้าหน้าที่ในคณะพบทุกคนเจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ เนื่องจากเบอร์โทรศัพท์จะมีเลขหมายเรียงกัน

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ได้รับคำชี้แจ้งว่า ปณท เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อกลลวงของมิจฉาชีพ ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ โดยการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลอกให้โอนเงิน เพื่อขอรับพัสดุคืน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ รวมถึงแจ้งว่าประชาชนมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพต้องถูกอายัดเงินในบัญชีทั้งหมดนั้น พร้อมย้ำหากผู้รับปลายทางไม่อยู่บ้าน หรือสิ่งของที่ฝากส่งไม่สามารถนำจ่ายได้ เจ้าหน้าที่นำจ่ายจะออก “ใบแจ้งให้มารับสิ่งของ” ณ ที่ทำการไปรษณีย์เท่านั้น โดยที่ผ่านมามีประชาชนร้องเรียนผ่านไปรษณีย์ไทยเข้ามาเป็นจำนวนกว่า2,000 ราย

​นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพใช้โทรศัพท์ติดต่อกับประชาชน โดยแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของไปรษณีย์ไทย หลอกลวงประชาชนว่ามีพัสดุตกค้าง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ โดยเรียกให้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารเพื่อนำพัสดุออกจากที่ทำการไปรษณีย์ รวมไปถึงมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดด้วยนั้น กรณีดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบ และร้องเรียนผ่านทาง THP Contact Center 1545 เป็นจำนวนกว่า 2,109 ครั้ง หรือ 13 เรื่องต่อวัน นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้บริการแจ้งเหตุฯ เข้ามาทางสื่อออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊กแฟนเพจและทวิตเตอร์ของไปรษณีย์ไทย และข้อความส่งต่อการหลอกลวงของแก๊งมิจฉาชีพทางแอพพลิเคชัน Line อีกเป็นจำนวนมาก

​นางสมร กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการการรับสิ่งของที่ฝากส่งทางไปรษณีย์นั้น หากพบผู้รับปลายทางไม่อยู่บ้าน หรือสิ่งของที่ฝากส่งไม่สามารถนำจ่ายได้ เจ้าหน้าที่นำจ่ายจะออก “ใบแจ้งให้มารับสิ่งของ” ณ   ที่ทำการไปรษณีย์ ซึ่งรองรับสำหรับผู้ใช้บริการที่ฝากส่งสิ่งของในไปรษณียภัณฑ์แบบมีหลักฐานเท่านั้น เช่น บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษในประเทศ (EMS) บริการส่งด่วนทั่วโลก (EMS World) บริการไปรษณีย์ลงทะเบียน เป็นต้น โดยเอกสารดังกล่าวจะระบุรายละเอียดการขอรับไปรษณียภัณฑ์ ดังนี้ สาเหตุที่ไม่สามารถนำจ่ายได้ หมายเลขสิ่งของจำนวน 13 หลัก ประเภทของไปรษณียภัณฑ์ วัน-เวลาที่เจ้าหน้าที่ไปนำจ่าย และวัน-เวลาที่ประชาชนสามารถไปติดต่อขอรับได้ ณ ที่ทำการฯ อย่างชัดเจน โดยยืนยันว่า ไปรษณีย์ไทย ไม่มีนโยบายการเรียกเก็บเงินผ่านบัญชีธนาคารเพื่อนำพัสดุออกจากที่ทำการไปรษณีย์ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น หากผู้ใช้บริการมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 หรือที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ​

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ