ตามกำหนดการที่รัฐบาลเมียนมาร์ได้ตกลงเอาไว้กับสหประชาชาติ นางอี ยองฮี ผู้เสนอรายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ จะเดินทางไปยังรัฐยะไข่ ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศบังกลาเทศในเดือนหน้า เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ความไม่สงบและการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวโรฮิงญา แต่นางอี ยองฮี ได้เปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลเมียนมาร์ได้กลับคำ ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ อีกทั้งยังไม่อนุญาตให้เธอเดินทางเข้าประเทศตลอดวาระของเธอ ซึ่งเธอก็บอกว่า ท่าที่ดังกล่าวของเมียนมาร์สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สถานการณ์ในรัฐยะไข่นั้นเลวร้ายกว่าที่คิด และอาจจะรวมไปถึงพื้นที่อื่นๆ ของประเทศเหมือนกัน
เหตุการณ์รุนแรงในรัฐยะไข่ครั้งล่าสุดเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม หลังกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาบุกโจมตีป้อมตำรวจจนมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 12 นาย ด้านกองทัพเมียนมาร์ชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่กับกลุ่มผู้อพยพ แต่ทางด้านผู้อพยพชาวโรฮิงญาที่ลี้ภัยหนีตายข้ามไปบังกลาเทศ กลับเล่าว่าชุมชนชาวพุทธและทหารเมียนมาร์กำลังขับไล่พวกเขาออกจากประเทศอย่างเป็นระบบ โดยเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนที่สังเกตการณ์อยู่ในฝั่งบังกลาเทศ ต่างระบุว่า สถานการณ์ความไม่สงบในรัฐยะไข่เข้าข่ายเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวโรฮิงญา
ทั้งนี้ นาง อองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมาร์ ลงพื้นที่ในรัฐยะไข่ครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้ว พร้อมย้ำว่า ทหารเมียนมาร์กำลังต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธ และทำทุกอย่างเพื่อปกป้องสิทธิ์ของชาวเมียนมาร์ทุกคนโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ