วันนี้ (21 ธ.ค.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพถ่ายของยายขณะทำแผนประกอบคำให้การกับตำรวจ ซึ่งพบศพ ด.ช. ทิวา แก้วสิงห์ หรือ แบงค์ วัย 14 ปี เสียชีวิตด้วยการผูกคอตายในท่านั่ง สาเหตุอาจเกิดมาจาก ผู้เสียชีวิตทะเลาะกับยายอย่างหนักก่อนจะหนีออกจากบ้านไป 2 วัน จนกระทั่งมาพบเป็นศพในเช้าวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้เป็นคำให้การของยายคนที่พบศพ โดยขัดแย้งกับ นางสมร กวินเน็สส์ ยายอีกคน ซึ่งเป็นน้องสาวของยายที่ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ เธอปักใจเชื่อว่าแบงค์ไม่น่าจะผูกคอตาย เพราะนอกจะได้ข้อมูลจากเพื่อนบ้านว่า สภาพศพของแบงค์มีร่องรอยถูกทำร้าย รวมถึงยังรู้มาว่าพี่สาวและลุงของเด็กมักมีพฤติกรรมเมาสุราและลงไม้ลงมือเป็นประจำ ล่าสุดวันนี้จึงเดินทางมาพบกับผู้สื่อข่าวพีพีทีวี หลังเข้าร้องเรียนกับกองบังคับการปราบปรามเมื่อวาน เพราะต้องการให้ตำรวจตรวจสอบที่มาการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้นอกจากรอยช้ำทั่วร่างศพ และการผูกคอตายในท่านั่งแล้ว อีกหนึ่งจุดที่ทำให้นางสมรปักใจยังไม่ปักใจเชื่อว่าหลานฆ่าตัวตาย เพราะได้ข้อมูลจากเพื่อนบ้านว่า ก่อนพบศพ 1 วัน พี่สาวที่แบงก์อาศัยอยู่ด้วย กล่าวกับเพื่อนบ้านว่า ได้ทะเลาะกับแบงค์อย่างหนัก จนน้องหนีออกจากบ้าน เพื่อนบ้านเลยกล่าวว่าให้ออกตามหา แต่ยายกลับตอบกลับมาว่า น้องจะไม่กลับมาแล้ว พร้อมกับบอกว่าจะไปหาชุดดำมาใส่
โดยล่าสุดทีมข่าวติดต่อไปยังสถานีตำรวจภูธรปากช่องที่ทำคดีนี้ ได้รับข้อมูลว่า ตำรวจยังไม่ได้สรุปสำนวนชันสูตรพลิกศพ แต่วันที่เกิดเหตุ ตำรวจได้เข้าพื้นที่ไปพร้อมกับแพทย์จากโรงพยาบาลปากช่องนานา พบว่า ศพมีรอยสายไฟรัดคอ ที่ขามีเลือดตก หรือจ้ำเลือด เป็นสภาพปกติของผู้ที่เสียชีวิตจากการผูกคอตาย ขณะที่ศพไม่พบว่ามีร่องรอยการการต่อสู้ หรือถูกทำร้ายใดๆ แพทย์จึงลงความเห็นว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ส่วนญาติได้แก่ แม่ ลุง และยายผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจเอาความ จึงไม่ได้นำร่างผ่าพิสูจน์อย่างละเอียด