ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า การระเบิดดังกล่าวมาจากก๊าซที่บรรจุเข้าไปในลูกโป่ง ซึ่งน่าจะเป็นก๊าซไฮโดรเจนที่จะมีความไวไฟสูง และค่อนข้างอันตราย โดยปกติลูกโป่งจะนิยมใช้ก๊าซ 2 แบบ คือ ก๊าซไฮโดรเจน และ ก๊าซฮีเลียม ผู้ที่ต้องการใช้ลูกโป่งสวรรค์ในงานต่างๆ ควรเลือกลูกโป่งสวรรค์ที่บรรจุด้วยก๊าซฮีเลียม ถึงแม้จะมีราคาแพงกว่าแต่ปลอดภัยกว่า เนื่องจากเป็นก๊าซเฉื่อย ไม่ติดไฟ ไม่มีปัญหาระเบิดและเกิดการรั่วซึมยาก ทั้งนี้ควรที่จะผลักดันให้เป็นกฎหมายบังคับ เพื่อให้ผู้จำหน่ายลูกโป่งต้องบรรจุแต่ก๊าซฮีเลียมเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย
สำหรับผู้ที่ซื้อลูกโป่งสวรรค์เพื่อเป็นของขวัญ หรือใช้จัดสถานที่ช่วงเทศกาลปีใหม่ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรเลือกร้านที่ใช้ก๊าซฮีเลียมในการบรรจุ โดยสังเกตจากตัวถังที่มีถังก๊าซเหล็กแบบเดียวกับที่ใช้ในโรงพยาบาล หากพบว่าใช้ถังบรรจุที่เป็นทรงกระบอกให้สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นถังไนโตรเจนที่คนขายผลิตขึ้นเอง
ขณะที่ที่ผ่านมาการควบคุมผลิตก๊าซไฮโดรเจน มีกฎกระทรวงอุตสาหกรรมปี 2555 กำหนดให้ผู้ที่ผลิตหรือบรรจุก๊าซไฮโดรเจนต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ที่ได้รับหนังสือรับรองการผ่านการฝึกอบรมจากหน่วยงาน ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมรับรองและขึ้นทะเบียนเป็นคนงานควบคุมก๊าซ แต่พบว่าคนขายลักลอบผลิตเองบ่อยครั้ง แต่ก็มีการอนุโลมมาตลอด
