“ไวรัสโรตา”เชื้อโรคที่มากับความหนาวซ้ำไม่มียารักษา


โดย PPTV Online

เผยแพร่




จากภาพจากอินสตาแกรมส่วนตัวของนักแสดงชื่อดัง นุสบา ปุณณกันต์ หลังเจอพิษไวรัสโรตาเล่นงานจนต้องนอนแอดมิดที่โรงพยาบาลโดยเธอได้บรรยายถึงที่มาที่ไปของการติดเชื้อไวรัสตัวนี้ซึ่งทำให้เห็นว่า มันช่างติดต่อสู่คนได้อย่างง่ายดายแต่กลับส่งผลรุนแรงที่สำคัญไม่มียารักษา

เดิมผู้ป่วยที่ได้รับไวรัสชนิดนี้จะพบในเด็กและผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นกับนักแสดงวัยกลางคนที่เรียกได้ว่าดูแลสุขภาพและออกกำลังกายให้แข็งแรงอยู่เสมอจนร่วงได้ตามคำบอกของเธอ

“ไวรัสโรตา” มักจะเกิดในช่วงฤดูหนาวเพราะเชื้อจะสามารถแพร่กระจายได้ดีส่วนใหญ่เกิดกับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะเด็กที่มืออาจไปสัมผัสอุจจาระแล้วมาจับของเล่นและนำมาเข้าปาก ดูดนิ้ว ซึ่งไวรัสชนิดนี้จะปะปนอยู่ในอุจจาระ โดยผลการศึกษาในต่างประเทศ พบว่าในอุจจาระของคน น้ำหนัก 1 กรัม มีเชื้อโรค 1 ล้านล้านตัว หากมีอุจจาระติดมือ เชื้อโรคก็จะติดมาด้วยและมีโอกาสเกิดการเจ็บป่วยได้

ไวรัสชนิดนี้เป็นเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย คือ ไวรัสโรตา โนโรไวรัส หากได้รับเข้าสู่ร่างกายจะมีโอกาสรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ เพราะจะทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง ลักษณะอุจจาระเป็นน้ำปนฟอง กลิ่นเหม็นเปรี้ยว ซึ่งบางรายมีอาการช๊อกจนหมดสติเพราะขาดน้ำรุนแรงและถึงขั้นเสียชีวิต

นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า แม้จะยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสชนิดนี้แต่ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตจากภาวะอุจจาระร่วงแล้ว 4 คน โดย 3 ใน 4 เป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยช่วงปี 2560 ไทยพบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงเกือบ 1 ล้านราย ขณะเดียวกันก็พบข้อมูลที่น่าสนใจจากองค์การยูนิเซฟว่าในแต่ละปีมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีทั่วโลก เสียชีวิตจากโรคอุจจาระร่วงราว 3.5 ล้านคน

แต่ใช่ว่าวัยอื่นจะรอดถ้าร่างกายอยู่ในช่วงที่อ่อนแอก็มีโอกาสได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายจาก อาหาร น้ำดื่ม ได้เหมือนกัน เนื่องจากเข้าห้องน้ำแล้วไม่ได้ล้างมือหรือล้างมือไม่สะอาด เพราะดูจากสถิติจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ทำการศึกษาพฤติกรรมการล้างมือของคนไทย ปี 2558  พบว่า คนไทย 88% ไม่ล้างมือหลังทำธุระในห้องน้ำ ดังนั้นเมื่อมาหยิบจับอาหารรับประทานก็ทำให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งมีระยะฟักตัวหลังได้รับเชื้อประมาณ 2-4 วัน และเชื้อก็สามารถอยู่ในร่างกายเราได้นานถึง 21 วัน

จากนั้น จะมีอาการเริ่มแรกคล้ายไข้หวัด มีไข้ อาเจียนใน 2-3 วันแรก แล้วเริ่มมีอาการถ่ายเป็นน้ำ 3-8 วัน โดยแนวทางการรักษาเบื้องต้นหากเริ่มมีอาการท้องร่วง ท้องเสีย นายแพทย์อัษฎางค์ แนะนำให้ ดื่มน้ำผสมเกลือแร่ทดแทน หากอาการไม่ดีขึ้นจึงไปพบแพทย์ ไม่แนะนำให้ซื้อยามารับประมานเองเพราะอาจเกิดอาการดื้อยาในอนาคต ขณะเดียวกันในปัจจุบันก็ยังไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสโรตาโดยตรง การรักษาจึงเป็นตามอาการและการรักษาแบบประคับประคอง หากมีไข้แพทย์จะให้ยาลดไข้ควบคู่ไปด้วยรวมถึงให้ดื่มน้ำสะอาดผสมเกลือแร่ พร้อมๆกับถ่ายอุจจาระให้เชื้อออกจนกว่าจะหมด โดยอาจใช้เวลา 5-10 วัน

สำหรับวิธีสังเกต 4 สัญญาณอันตราย นายแพทย์อัษฎางค์ บอกว่า 1.ซึม ไม่มีแรง มือเท้าเย็น 2.อาเจียนมาก ถ่ายมากผิดปกติ 3.ปัสสาวะสีเข้มและน้อยผิดปกติ หรือ ไม่ปัสสาวะเลยติดต่อกัน 6 ชั่วโมง และ 4. ปากแห้ง ตาโหล ถ้าเด็กร้องไห้ก็จะไม่มีน้ำตา และกระหม่อมบุ๋ม หากพบอาการเหล่านี้ควรพาไปพบแพทย์ด่วน

“ไวรัสโรตา” อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการแพทย์ แต่ก็เป็นภัยเงียบใกล้ๆตัวที่อันตราย สิ่งสำคัญที่สุดคือการป้องกันไว้ก่อนจากตัวเราเองและพื้นฐานง่ายๆที่จะให้ภัยร้ายนี้ไกลจากตัวคือต้องล้างมือให้สะอาดและบ่อยครั้งทั้งหลังเข้าห้องน้ำ ก่อนปรุงอาหาร ส่วนในเด็กผู้ปกครองต้องเอาใส่ใจเป็นพิเศษ เช่น ทำความสะอาดของเล่น เสื้อผ้า เป็นประจำ

ขอบคุณข้อมูล กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

เว็บไซต์ http://haamor.com/

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ