ปปง.เร่งสอบ 7 ธนาคาร สัปดาห์หน้าได้ข้อสรุป ใช้บัตร “ณิชา” เปิดบัญชี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ปมปริศนาการเปิด 9 บัญชี 7 ธนาคารในชื่อของ “ณิชา” ยังไม่กระจ่างในวันนี้ ขณะที่ ปปง.สั่งเร่งตรวจสอบธนาคารทั้งหมด หากพบว่ามีข้อบกพร่องจะมีโทษปรับสูงสุดครั้งละ 1,000,000บาท ตามกฎหมายฟอกเงินและคาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป

เมื่อวันที่ (12 ม.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคาร 4 แห่ง คือ ไทยพาณิชย์ กรุงไทย กสิกรไทย และกรุงเทพ ถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.เข้าตรวจสอบ หลังพบมีผู้เปิดบัญชีในชื่อ น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ 9 บัญชีจาก 7 ธนาคาร โดยธนาคารอีก 3 แห่งคือธนชาต ออมสิน และทหารไทย เจ้าหน้า ปปง.จะเข้าตรวจสอบในวันจันทร์ ที่ 15 มกราคม เบื้องต้นสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ยอมรับว่า ส่วนหนึ่งเป็นข้อผิดพลาดของธนาคาร ที่ไม่ได้มีการตรวจพิสูจน์ตัวบุคคลก่อนเปิดบัญชี   ซึ่งนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี1 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ระบุว่า ในสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปทั้งหมด

สำหรับหลักเกณฑ์ที่ใช้ตรวจสอบเป็นไปตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ที่ต้องดูว่าธนาคารทำตามขั้นตอน KYC หรือการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล เช่น วันเดือน ปี เกิด อาชีพ ใบหน้า  วัตถุประสงค์การเปิดบัญชี  หากไม่ดำเนินการ ธนาคารจะถูกปรับสูงสุดครั้งละ 1 ล้านบาท เมื่อเปิดบัญชีแล้ว ธนาคารต้องดำเนินการ CDD หรือการตรวจสอบรายการเคลื่อนไหวของบัญชี หากพบความผิดปกติต้องแจ้งให้ ปปง.ตรวจสอบ หากไม่ทำ จะมีโทษปรับวันละ 10,000 บาท

ปัจจุบันพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ได้เปลี่ยนรูปแบบและวิธีหลอกลวง ไปตามการตรวจสอบของตำรวจ เช่น ปลอมหมายจับและหนังสือของส่วนราชการ

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ตำรวจตรวจพบหมายเลขโทรศัพท์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีต้นทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด 50 หมายเลข ทั้งหมดใช้วิธีโทรแบบ VOIP หรือ โทรผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าหมายเลขทั้ง 50 หมายเลขมีต้นทางมาจากที่ใดบ้าง  ส่วนแนวทางการแก้ปัญหา ได้หารือร่วมกับเครือข่ายโทรศัพท์ทุกเครือข่าย ให้จัดทำระบบป้องกันการโทร.จากระบบอินเทอร์เน็ต ด้วยวิธีการสร้างระบบตรวจสอบ  

หากมีหมายเลข โทรผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจากต่างประเทศ จะต้องผ่านระบบตรวจสอบกลาง ของเครือโทรศัพท์ภายในประเทศไทยก่อน จากนั้นเครือข่ายโทรศัพท์จะแปลงหมายเลขที่ โทรผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจากต่างประเทศ ทุกหมายเลขเป็น หมายเลขกลาง ก่อนจะส่งต่อไปยังปลายทาง  

ส่วนหมายเลขโทรศัพท์ 50 หมายเลขที่ตรวจพบว่าเป็นต้นทางของ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เบื้องต้นได้สั่งบล็อกหมายเลขทั้งหมดแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบไปยังต้นทางว่ามาจากประเทศใดบ้าง แต่ยอมรับว่าการตรวจสอบทำได้ยาก เพราะไทยไม่เคยมีระบบตรวจสอบเรื่องนี้มาก่อน

ขณะที่ในวันนี้ ปปง. ได้นำเงินที่สามารถอายัดได้จากบัญชีธนาคารของกลุ่มมิจฉาชีพรวม 1,641,000 บาท คืนให้กับผู้เสียหาย 11 คน ที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวง พร้อมเตือนประชาชนหากพบว่าถูกหลอกให้โอนเงิน ต้องรีบแจ้งตำรวจ หรือ โทรสายด่วน ปปง. 1710 เพื่อให้สามารถอายัดเงินและตรวจสอบได้ทันท่วงที

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ