นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ( คน.) กล่าวถึงกรณีที่มีการแชร์ในโลกโซเชียลว่ามีแม่ค้าจำหน่ายข้าวกะเพราราคาจานละ 150 บาท ว่า ได้สั่งการให้สายตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วและได้ทำการสั่งซื้ออาหารที่มีการร้องเรียนและพบว่าจำหน่ายในราคา 80 บาท และตรงกับที่มีการปิดป้ายแสดงราคาไว้ที่หน้าร้าน ส่วนราคาขายให้ต่างชาติ 150 บาท นั้นก็เลิกขายไปแล้วโดยจากนี้เจ้าของร้านจะขายในราคา 80 บาท เท่ากัน โดยขั้นตอนจากนี้คือให้ทำหนังสือสั่งให้เจ้าของร้านมาชี้แจงต้นทุนภายใน 7-15 วัน แต่ขณะนี้ยังถือว่าเจ้าของร้านยังไม่มีความผิดใน พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ในมาตรา 28 ว่าด้วยการแสดงราคาสินค้าหรือบริการ หากพบว่าจงใจจำหน่ายไม่ตรงกับป้ายแสดงราคา มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และมาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการใด ๆ โดยจงใจที่จะทำให้ราคาต่ำเกินสมควร หรือสูงเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการ มีโทษ ปรับไม่เกิน 140,000 บาท จำคุกไม่เกิน 7 ปี ทั้งนี้หากผู้ประกอบการไม่สามารถชี้แจงได้ก็ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า เรื่องการขายของแพง มีร้องเรียนเข้ามาตลอด แต่เรื่องการกำหนดสองราคาระหว่างราคาคนไทยและต่างชาติยังไม่เคยมีการร้องเรียนเข้ามา ซึ่งยอมรับว่าไม่มีกฎหมายของกรมการค้าภายในที่จะกำหนดให้ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าหรือบริการในราคาเดียวกันหมดทั้งของคนไทยและต่างชาติ จึงอยากขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการให้คำนึงถึงชื่อเสียงของประเทศ เพราะกรณีนี้ถือว่ากระทบต่อชื่อเสียงของประเทศ
สำหรับโครงสร้างราคา “ข้าวกะเพราหมู” ตามข้อมูลของกรมการค้าภายใน แจกแจงไว้ดังนี้
1.ต้นทุนวัตถุดิบ ได้แก่ ข้าวขาว/เนื้อหมู/น้ำมันพืช/และวัตถุดิบอื่นๆ รวม 11.33 บาท
2.ค่าแรงงานทางตรง 6.20 บาท (ค่าแรงวันละ 310 บาท/คน)
3.ค่าแก๊ส 1.17 บาท (ค่าแก๊สถังละ 353 บาท)
4.ค่าเช่าที่ 2 บาท (คิดจากค่าเช่าที่ 6,000 บาท/เดือน หากค่าเช่าที่แพงกว่านี้ต้นทุนก็จะเพิ่มขึ้น)
5.ค่าไฟ 0.89 บาท
6.อื่นๆ (ค่าน้ำประปา/ค่าขนส่ง) 0.82 บาท
7.ค่าความเสี่ยง (ร้อยละ 10 ของต้นทุนวัตถุดิบ) 1.13 บาท
สรุป
ต้นทุนข้าวกะเพราต่อจานอยู่ที่ 23.55 บาท
กำไร 11.45 บาท
ราคาจำหน่าย 35 บาท
***กะเพราเนื้อสัตว์อื่นๆ ขึ้นอยู่กับราคาวัตถุดิบในขณะนั้น***