วันนี้ (25 ม.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวาระที่ 2 และ 3 โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายต่างๆ โดยกรรมาธิการเสียงข้างน้อยที่อภิปรายวันนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ต้องการให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ทันที กับ กลุ่มที่ต้องการให้เลื่อนบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ออกไป 120 วัน โดย นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน พยายามโน้มน้าว สมาชิก สนช. สนับสนุนกรอบเวลา 120 วัน โดยอ้างว่ามีความเหมาะสมที่จะให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมก่อนการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมาธิการเสียงข้างน้อย ที่เสนอกรอบเวลาขอให้เลื่อนใช้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ออกไป 120 วัน เป็นแนวคิดตั้งแต่เริ่มแรกของการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ โดยอ้างว่าเพื่อให้สอดคล้องกับ คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 ที่จะต้องมีเวลาให้ คสช. พิจารณาปลดล็อกพรรคการเมือง และยกเลิกคำสั่งที่เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการย้ำแนวคิดเพื่อโน้มน้าว สมาชิก สนช. ในการพิจารณาผ่านร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ในวาระ 2 และ วาระ 3
ประเด็นสำคัญในวันนี้ คือ มาตรา 2 ที่เป็นการกำหนดกรอบเวลา ให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยกรรมาธิการเสียงข้างมาก ได้เสนอไว้ 90 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งหากที่ประชุมให้ความเห็นชอบ ก็จะทำให้การเลือกตั้ง เลื่อนออกไปอยู่ในราวเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
นายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช. เห็นด้วยกับกรอบเวลาของกรรมาธิการเสียงข้างมาก โดยอ้างว่าต้นปี 2562 เศรษฐกิจภายนอกและภายในประเทศจะดีขึ้น ส่งผลดีต่อบรรยากาศการเลือกตั้งและทุกพรรคจะได้ประโยชน์ ขณะที่ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. แสดงความกังวล การขยายกรอบกรอบเวลาที่นานไป อาจทำให้สังคมไม่เข้าใจ โดยนายวัลลภ ยืนยันว่ากรอบเวลาที่เหมาะสมควรจะเป็น 60 วัน เพราะอยู่ในกรอบเวลาที่จะสามารถชี้แจงสังคมได้
สำหรับประเด็นมาตรา 2 ที่เป็นการกำหนดว่าจะเลื่อนใช้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ออกไป 90 วัน หรือ 120 วัน หรือไม่นั้น ขณะนี้ สมาชิก สนช. ใช้เวลาอภิปรายกว่า 2 ชั่วโมง และเมื่อจบการอภิปรายในมาตรานี้ ก็จะเปิดอภิปรายมาตราอื่น ไปเรื่อย ๆ จนครบ 178 มาตรา ก่อนลงมติในวาระ 2 และวาระ 3 โดยคาดว่าจะทราบผลในช่วงเย็นวันนี้
