ภาพอดีตกลุ่มลูกศิษย์นางอัจฉราวดี วงศ์สกล บุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้บรรลุธรรมขั้นสูง กำลังนั่งปฏิบัติธรรม ที่อดีตกลุ่มลูกศิษย์ นำมาอ้างกับทีมข่าวพีพีทีวี ว่า เคยเป็นศิษย์นางอัจฉราวดีจริง และการออกจากลูกศิษย์ เพราะถูกหลอกบริจาคเงิน ช่วยทำป้ายปกป้องศาสนา ที่ติดตั้งตามทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิบ่อยครั้ง โดยอ้างว่า หากบริจาคเงินจำนวนมาก จะสามารถบรรลุธรรมขั้นพระโสดาบันได้ แต่ไม่มีการชี้แจงที่มาที่ไปของเงิน รวมทั้งเปิดประมูลของใช้ส่วนตัว และปล่อยเช่าพระพุทธรูป
ด้านนายดนัย ปรีชาเพิ่มประสิทธิ์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นว่า หากมีพฤติกรรมตามเช่นนี้จริง ถือว่าเป็นการแอบอ้างพระพุทธศาสนา เพื่อผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ แม้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะไม่สามารถตรวจสอบหรือลงโทษได้ เพราะไม่ใช่หน่วยงานในสังกัด แต่ต้องออกมาประกาศเตือนประชาชน ให้เข้าใจถึงหลักปฏิบัติของพระพุทธศาสนาที่แท้จริง
ส่วนพฤติกรรมแอบอ้างพระพุทธศาสนา เพื่อหาผลประโยชน์ จะเข้าข่ายหลอกลวงและฉ้อโกงหรือไม่ นายดนัย ระบุว่า หากมีผู้ร้องเรียนขอทราบรายละเอียดว่านำเงินใช้ประโยชน์เพื่ออะไร งบบริจาคหายไปไหน ก็สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย
ขณะที่นางอัจฉราวดี วงศ์สกล ประธานมูลนิธิโนอิ้ง บุดด้า ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นที่ต้องการทำลายความเชื่อถือของตน เนื่องจากตนไปแตะกรณีสงฆ์ที่ประพฤติตัวไม่มีความละอายทำให้เสื่อมเสีย และศิษย์เหล่านี้ที่ออกจากสายไปแล้วเพราะถูกติเตียนไม่พอใจ จึงไปรวมกลุ่มกันเพื่อทำลายตนทุกช่องทาง ซึ่งคนที่ทำงานในศาสนามีความเสื่อม 2 เรื่อง คอื เรื่องชู้สาว กับเรื่องเงิน โดยการโจมตีเหล่านี้สร้างเรื่องขึ้นมาทั้งหมด
นางอัจฉราวดี กล่าวต่อว่า คนที่ปฏิบัติธรรมคิดว่าทำดีแล้วต้องมีคนยอมรับ แต่เมื่อถูกตำหนิไปว่าอันนี้ไม่ได้ก็เกิดอัตตาและยอมรับไม่ได้ก็เกิดเป็นฝั่งต้าน ส่วนประเด็นตนเรื่องเงินสามารถชี้แจงได้ทุกประการ ทั้งการรับบริจาค การทำป้าย โดยการทำแบนเนอร์อันใหญ่อันหนึ่งปีหนึ่งใช้งบประมาณเดือนละกว่า 2 แสนบาท ตนในฐานะประธานโนอิ้ง บุดด้า ซึ่งทำการรณรงค์ไม่ให้เกิดการลบหลู่สัญลักษณ์ของพระบรมศาสดาจึงสามารถชี้แจงงบได้หมด เพราะถ้าไม่มีการสนับสนุนก็ต้องใช้วิธีการบริจาค ส่วนกรณีที่บอกว่าเมื่อบริจาคเท่านั้นเท่านี้ได้โสดาบัน เป็นการกล่าวทำลายตนอย่างสิ้นเชิง เป็นการกล่าวคำเท็จที่น่าละอายที่สุด เป็นการพยายามทำลายล้างกัน และยอมรับว่าตนเป็นคนบอกลูกศิษย์ว่า สามารถบรรลุโสดาบันได้โดยไม่ต้องบวช เพราะเป็นเรื่องจริง ซึ่งฆาราวาสสามารถบรรลุธรรมได้โดยไม่ต้องบวช
ส่วนประเด็นที่กลุ่มอดีตลูกศิษย์กล่าวอ้างว่ามีคำสอนที่ไม่เป็นไปตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เช่น เตโชวิปัสสนา นางอัจฉราวดี กล่าวว่า เตโชวิปัสสนา เป็นชื่อเทคนิควิธี เช่น การปฏิบัติพุธโธ หรือ ยุบหนอพองหนอ แต่จริงๆ แล้วเป็นการปฏิบัติตามหลักแม่บทสติปัฏฐาน 4 ซึ่งการนำเรื่องชื่อมาบอกว่าไม่ได้อยู่ในพระไตรปิฏกตนถูกโจมตีมานาน โดยมองว่ามีอดีตลูกศิษย์มาทำลายตนไม่เกิน 20 คน และมองว่าที่ศิษย์มาโจมตีเป็นเรื่องของอำนาจ เมื่อแตะอัตตาจิตแล้วก็เกิดความแค้น ซึ่งทุกประเด็นตนสามารถแถลงได้หมด พร้อมกล่าวยืนยันว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ได้เป็นการสร้างลัทธิ
