สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัท ไลน์ คอร์ปอเรชั่น (LINE Corporation) ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นแชท และบริการอื่นๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต ระบุว่า จะเริ่มให้บริการซื้อขายสกุลเงินเสมือนจริง หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ผ่านบริษัทใหม่ ที่มีชื่อว่า “ไลน์ ไฟแนนเชียล (LINE Financial)” ซึ่งนอกจาก การซื้อขายสกุลเงินเสมือนจริงแล้ว ไลน์ ไฟแนนเชียล จะให้บริการเงินกู้และขายประกัน ผ่านแอปพลิเคชั่น “ไลน์” อีกด้วย
โดยการประกาศแตกธุรกิจใหม่ของไลน์ มีขึ้นท่ามกลางข่าวการจารกรรมสกุลเงินเสมือนจริงครั้งใหญ่ กว่า 58,000 ล้านเยน หรือประมาณ 16,700 ล้านบาท จาก บริษัท คอยน์เช็ค ในญี่ปุ่น เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ โฆษก ไลน์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องให้ความรู้แก่ผู้ใช้ที่เพิ่งเริ่มต้น และยังไม่มีประสบการณ์ ทั้งเรื่องความคุ้มค่าจากผลิตภัณฑ์การเงินของบริษัท และความเสี่ยงที่มาพร้อมกันควบคู่กันไป
ขณะที่ตลาดซื้อขายสกุลเงินเสมือนจริงในญี่ปุ่นได้เติบโตสูงสุดเมื่อปีที่ผ่านมา โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก การปราบปรามของทางการในประเทศจีนและเกาหลีใต้ ปัจจุบัน มีบริษัทซื้อขายสกุลเงินเสมือนจริงในญี่ปุ่น ที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลบริการด้านการเงินแล้ว 16 แห่ง ขณะที่อีก 16 แห่งกำลังอยู่ระหว่างพิจารณา
อย่างไรก็ตามทางด้าน เฟซบุ๊ก เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก ประกาศว่า บริษัทจะห้ามการโฆษณาสกุลเงินเสมือนจริง การระดมทุนผ่านเงินสกุลเสมือนจริง (Initial Coin Offering) และการซื้อขายแบบไบนารี่ ออปชั่น (binary options) บนเฟซบุ๊ก รวมถึงอินสตาแกรม โดยให้เหตุผลว่า โฆษณาดังกล่าวมักจะมีเนื้อหาโฆษณาที่มักเป็นการหลอกลวงหรือทำให้เข้าใจผิด ซึ่งเฟซบุ๊กอยากให้ผู้ใช้สามารถค้นพบและรู้จักผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกหลอกหรือถูกโกง
โดยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ได้โพสต์เกี่ยวกับเงินเสมือนจริงและเทคโนโลยีอื่นๆ ที่สนับสนุนการประกอบธุรกิจโดยไม่จำเป็นต้องมีการควบคุมโดยส่วนกลาง ว่าเป็นเทรนด์ที่ตนกำลังศึกษาอยู่ในปีนี้ โดยส่วนหนึ่งก็เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นบนเฟซบุ๊ก ซึ่งขณะที่หลายคนมองท่าทีของซักเคอร์เบิร์กว่า เป็นสัญญาณบวกสำหรับสกุลเงินเสมือนจริง แต่ตัวซักเคอร์เบิร์กเองก็ได้ชี้แจงว่า เขากำลังศึกษาทั้งด้านบวกและด้านลบของเทคโนโลยีดังกล่าว
Reuters