แพทย์แนะไม่ควรเดินเท้าเปล่าตามพื้นดิน-พื้นทราย เสี่ยง “โรคตัวอ่อนพยาธิไชตามผิวหนัง”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลังจากโลกออนไลน์ได้มีการส่งข้อเกี่ยวกับเรื่องของตัวอ่อนพยาธิชอนไชผิวหนัง ล่าสุดกรมควบคุมโรค ได้เตือนประชาชนระวังตัวอ่อนพยาธิไชตามผิวหนัง เผยเป็นตัวอ่อนพยาธิปากขอของสุนัขและแมวอาศัยในดิน ตัวอ่อนพยาธินี้จะไชเข้าไปในเท้าคนที่เดินเท้าเปล่า  แนะให้หลีกเลี่ยงพื้นดินที่ชื้นแฉะ ไม่ควรเดินเท้าเปล่าตามพื้นดินและพื้นทรายตามชายหาด

วันนี้ ( 5 ก.พ.61) นพ.สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย  อธิบดีกรมควบคุมโรค  เปิดเผยถึงกรณีที่มีการส่งต่อกันในโซเชียลเกี่ยวกับตัวอ่อนพยาธิชอนไชผิวหนัง กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า โรคตัวอ่อนพยาธิชอนไชผิวหนัง (Cutaneous larva migrans) เป็นโรคที่เกิดจากตัวอ่อนพยาธิปากขอของสัตว์ เช่น สุนัข แมว แพะ แกะ ม้า สุกร โค หรือพยาธิเส้นด้ายของสัตว์ โดยตัวอ่อนพยาธิอาศัยอยู่ในดิน ส่วนใหญ่เป็นพยาธิปากขอ จะไชเข้าไปทางผิวหนัง ผ่านทางรอยแผลหรือรูขุมขนในผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น หรือชั้นหนังกำพร้า เกิดผื่นเส้นนูนแดงคดเคี้ยวใต้ผิวหนังตามทางที่ตัวอ่อนพยาธิไชผ่าน แต่เนื่องจากคนไม่ใช่พาหะที่ตัวอ่อนจะเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยได้ ดังนั้น ตัวอ่อนพยาธิจึงไปตามผิวหนังชั้นหนังกำพร้าเพื่อหาทางออกจากร่างกายคน ตัวอ่อนพยาธิจะตายเองใน 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน พยาธิสภาพและอาการแสดงทางผิวหนังจะเป็นอยู่นานจนกว่าตัวอ่อนพยาธิจะถูกทำลายโดยภูมิคุ้มกัน

        


ส่วนการติดต่อ คนจะติดโรคโดยบังเอิญ จากการที่ตัวอ่อนพยาธิ ที่อาศัยอยู่ตามพื้นดินชื้นแฉะแล้วไชเข้าผิวหนังของคนที่เดินเท้าเปล่าหรืออาจจะติดตามตัวทาก หรือเข้าตามผิวหนังของเด็กที่นั่งเล่นตามพื้นดินหรือทรายตามชายหาด และสามารถไชผ่านเสื้อผ้าบางๆ ของเด็กได้  สำหรับการเกิดโรคนั้น ตัวอ่อนพยาธิจะหลั่งเอ็นไซม์เพื่อไชผ่านผิวหนังปกติ ผิวหนังที่เป็นแผล หรือไชเข้ามาตามรูขุมขน มาอยู่ในชั้นหนังกำพร้า แต่ไม่สามารถไชผ่านหนังแท้ได้ หลังจากนั้น 2-3 ชั่วโมง ผิวหนังบริเวณนั้นจะเกิดการอักเสบ และอีก 2-3 วันจะเคลื่อนที่ไปใต้ผิวหนังชั้นหนังกำพร้า ผิวหนังจะอักเสบ บวมน้ำ มีเม็ดเลือดขาวมาคั่งอยู่ จากนั้นผู้ป่วยจะเกิดผื่น โดยตอนแรกเป็นตุ่มเล็กๆ สีแดง เมื่อตัวอ่อนพยาธิไชเข้าไปจะเห็นรอยแผล เป็นผื่นเส้นนูนสีแดงกว้าง 2-3 มิลลิเมตร คดเคี้ยวไปมา ซึ่งผื่นอาจมีความยาวได้ถึง 15-20 เซนติเมตร ตัวอ่อนของพยาธิจะเคลื่อนที่วันละ 2-3 มิลลิเมตร จนถึงหลายเซนติเมตร ผื่นมักพบบริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับดินโดยตรงคือ มือ เท้า ในเด็กเล็กอาจพบผื่นที่ก้นได้ อาการร่วมที่สำคัญคือมีอาการคันมาก อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ป่วยไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกวิธี ต่อไป
 

สำหรับโรคนี้พบมากในภูมิภาคร้อนชื้นและอบอุ่น เช่น ประเทศแถบอเมริกาตอนใต้ อเมริกากลาง อเมริกาใต้ บราซิล แถบชายหาดทะเลแคริบเบียน  แถบอากาศกึ่งร้อนชิ้นอบอุ่นทั่วโลก ประเทศอัพริกาตอนใต้ เอเชียตอนใต้ หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้ง ประเทศอินโดนีเซีย บอร์เนียว มาเลเซีย



กรมควบคุมโรค แนะนำวิธีป้องกัน โดยขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นดินที่ชื้นแฉะ ไม่ควรเดินเท้าเปล่าตามพื้นดินหรือพื้นทราย เช่น ตามชายหาด ให้สวมรองเท้าทุกครั้งที่ต้องเดินบนพื้นดินและรีบล้างเท้าทำความสะอาดทุกครั้งหลังเดินชายหาด สวมถุงมือทุกครั้งที่ต้องสัมผัสกับดิน เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวอ่อนพยาธิไชเข้าสู่ร่างกาย รวมถึงให้ขับถ่ายอุจจาระลงส้วมทุกครั้ง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของ ล้างมือบ่อยๆ ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร และก่อนออกจากห้องน้ำ  นอกจากนี้ ขอให้เจ้าของสุนัขและแมว นำสัตว์เลี้ยงไปตรวจรักษาโรคหนอนพยาธิในสัตว์ที่สามารถแพร่โรคสู่คนได้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ตัวอ่อนพยาธิจากสัตว์ลงในพื้นดิน 

 

ภาพ : AFP

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ