ย้อนรอยบุกป่าทุ่งใหญ่ฯ รวบเปรมชัย!!


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เช้าวันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกิดเรื่องราวสลดใจคนรักป่า เมื่อเพจเฟซบุ๊ก “คนอนุรักษ์” โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า เปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด(มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน ถูกควบคุมตัวดำเนินคดี เพราะเข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก มีทั้งเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา และเก้ง จนเกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำครั้งนี้เป็นวงกว้าง

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 เปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน ได้เข้าไปท่องเที่ยวในเส้นทางสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก หน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง - หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช ในโปรแกรม 2 วัน 1 คืน โดยใช้เส้นทางที่เปิดให้ท่องเที่ยวชื่อ ทินวย – ทิคอง - มหาราช ระยะทาง 30 กิโลเมตร

กระทั่ง 4 กุมภาพันธ์ 2561 เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ได้รับรายงานว่าคณะของนายเปรมชัย ได้ลักลอบตั้งแคมป์พักแรมในจุดบริเวณห้วยปะชิ ซึ่งเป็นจุดที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ซึ่งไม่อนุญาตให้ตั้งแคมป์ จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ และพบกับซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือไก่ฟ้าหลังเทา และเก้ง จึงทำการขยายพื้นที่ตรวจสอบพบอาวุธปืนลูกกรดติดลำกล้อง 1 กระบอก ปืนไรเฟิลติดลำกล้อง 1 กระบอก และปืนลูกซองแฝด 1 กระบอก จึงควบคุมตัวนายเปรมชัย และพวกไปที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก

5 กุมภาพันธ์ 2561 เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติม และได้พบกับเรื่องราวสะเทือนใจผู้พิทักษ์ป่า พบซากเสือดำถูกชำแหละเนื้อ และถลกหนังถูกห่อด้วยถุงดำพร้อมด้วยเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนมากที่ถูกซุกซ่อนไว้ใกล้กับแคมป์พัก จึงได้ควบคุมตัวเปรมชัย และพวกส่งดำเนินคดีที่ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

เปรมชัย และพวกถูกแจ้งความดำเนินคดีถูกแจ้งความดำเนินคดี 9 ข้อหา

1.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535

2.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 16 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535

3.ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 19 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535

4.ฐานนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อหา 1 (1) ของกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับบที่ 7 (พ.ศ.2538) ออกตามความมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวน

5.ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507

6.สำหรับความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษตามฐานความผิดต่อไป

7.ฐานนำอาวุธปืนเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต

8.ฐานซ่อนเร้น อำพราง รับไว้ซึ่งซากสัตว์ซึ่งได้มาโดยผิดกฎหมาย

9.พระราชบัญญัติอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน

ก่อนที่ในช่วงบ่ายศาลจังหวัดทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี อนุญาตให้ประกันตัว 4 ผู้ต้องหาคดีล่าสัตว์ฯ ด้วยวงเงินประกันคนละ 150,000 บาท

ช่วงสายของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561  “พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าค้นบ้าน "เปรมชัย" ในซอยศูนย์วิจัย3 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พบอาวุธปืน 43 กระบอก ทั้งปืนไรเฟิล 28 กระบอก ปืนยาว และปืนสั้น พร้อมเครื่องกระสุนกว่า 1,000 นัด และพบงาช้าง 2 คู่ หรือ 4 กิ่ง แต่กลับไร้เงาเปรมชัย!

ในวันเดียวกันนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ พร้อมกองพิสูจน์หลักฐานเข้าพื้นที่จุดตั้งแคมป์เปรมชัย เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม

8 กุมภาพันธ์ 2561 “วิเชียร ชิณวงษ์” หน้าหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก หัวหน้าทีมจับกุม ประชุมร่วมกับพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะกรรมการควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมเอาผิดเปรมชัย

จากนั้นในช่วงบ่าย “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” หัวหน้าหน่วยพญาเสือ พร้อมวิเชียรเข้าให้ปากคำกับพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในคดีเปรมชัย และพวกรวม 4 คน ล่าสัตว์ป่าภายในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

วันนี้ 9 กุมภาพันธ์ 2561 “พล.ต.อ.ศรีวราห์” เผยผลสอบ “วิเชียร ชิณวงษ์” พบมีการละเว้นเก็บค่าธรรมเนียมจำนวน 110 บาทของเปรมชัยและพวก การพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ และการทำเรื่องอนุญาตโดยไม่มีอำนาจ เตรียมส่งเรื่องให้กรมอุทยานฯ พิจารณาว่าผิดทางวินัยหรือผิดอาญา

นางสาวกาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในคดีการลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ในฐานะพยาน ยืนยันว่าให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริง โดยเมื่อวันที่ 31 มกราคม ได้รับการประสานจากนายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการในกรมอุทยาน ว่ามีคนรู้จักขออนุญาตเข้าพื้นที่ไปศึกษาธรรมชาติ แต่ไม่ได้อยู่ในส่วนที่รับผิดชอบแต่เป็นของพื้นที่บ้านโป่ง จึงแนะนำและให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่รู้จักกับนายนพดล หรือนายเปรมชัยเป็นการส่วนตัว รวมถึงนายวิเชียร ที่เป็นหัวหน้าชุด และไม่เคยเห็นหนังสือขออนุญาตเข้าพื้นที่ และการออกหนังสือนุญาต ก็ต้องยื่นกับพื้นที่บ้านโป่ง ไม่ได้ส่งมาให้ตนเองอนุมัติแต่อย่างใด! 

ขณะที่การสอบสวนหาข้อเท็จจริงยังคงดำเนินต่อไป.. แต่หลังการประกันตัวเปรมชัย ภรรยาบอกว่าติดต่อไม่ได้ และ ไม่รู้อยู่ไหน!?

ขณะที่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีประโยคเด็ด! เกี่ยวกับคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เข้าไปล่าสัตว์ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ที่ทีมนิวมีเดีย พีพีทีวีได้รวบรวมมา

ครั้งที่สองในชีวิต ครั้งแรก 40 ปีมาแล้ว มาทำเขื่อนเขาแหลม มาพักผ่อน ไม่เคยมาเลย จะแก่ตายแล้วขอมาสักทีเหอะเป็นคำพูดของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 ให้สัมภาณ์กับสื่อมวลชนที่ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

ลิ้งค์ข่าว : “เปรมชัย” เดินทางกลับกรุงเทพฯแล้วหลังสอบปากคำเสร็จ ยันขออนุญาตก่อนเข้าทุ่งใหญ่

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กรณีเจ้าหน้าที่จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน ในหลายข้อหา หลังเข้าป่าล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ว่าไปตามกฎหมาย และไม่ต้องเป็นห่วง

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 ถึงการติดตามคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้ต้องหา หลังถูกจับลักลอบเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมของกลางซากเสือดำ ซากสัตว์ และอาวุธ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้เรื่องนี้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย มันช่วยกันไม่ได้ ผิดก็ผิด จะใหญ่แค่ไหน ก็คือผิดถ้ามันพิสูจน์ได้

ลิ้งค์ข่าว : นายกฯ ลั่นคดี “เปรมชัย” ใหญ่แค่ไหนหากผิดจริงก็ต้องลงโทษ 

8 กุมภาพันธ์ 2561 วิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก เข้าร่วมประชุมและรายงานเหตุการณ์ทั้งหมดต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับทราบเพื่อเตรียมข้อมูลเพื่อพิสูจน์ต่อศาล เอาผิดนายเปรมชัยกับพวก และหารือมาตรการอนุรักษ์สัตว์ป่า และได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า คนทุ่งใหญ่ เรามีศักดิ์ศรี แม้จะไม่ร่ำรวย แต่เราไม่ต้องการเงินจากคุณเปรมชัยแม้แต่บาทเดียว

ลิ้งค์ข่าว : “วิเชียร ชิณวงษ์ “พบรมว.ทรัพย์ เตรียมข้อมูลเอาผิด “เปรมชัย”

8 กุมภาพันธ์ 2561 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าคดีของนายเปรมชัย กรรณสูต และพวก ที่ถูกจับในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร  คดีนี้ไม่เป็นมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน และไม่มีอิทธิพลเกี่ยวข้องส่วนที่อยู่ของนายเปรมชัย ในขณะนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่ายังสามารถติดต่อนายเปรมชัยได้

ลิ้งค์ข่าว : “ศรีวราห์”จ่อรายงานอุทยาน "วิเชียร"ไม่เก็บค่าธรรมเนียม"เปรมชัย"

 

 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ