วันนี้ (12 ก.พ.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.00 น. ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ “ลุงจรูญ” อดีตข้าราชการตำรวจและครอบครัวพร้อมทีมทนาย เดินทางมาที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี หลังศาลนัดพบเป็นครั้งแรกพร้อมคู่กรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ “ครูปรีชา” ครูชำนาญการพิเศษ โดยในวันนี้เป็นการนัดชี้สองสถานหรือสืบพยานในคดีหวย 30 ล้านบาท
ทั้งนี้ ก่อนเข้าไปในศาล ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า “ถ้าเขายอมรับมีสิทธิ์ที่จะไกล่เกลี่ย แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับก็เลิกคุยกัน”
ขณะที่ครูปรีชา กล่าวว่า “วันนี้ สบายดี สบายใจ สดชื่น ขอให้เป็นกระบวนการทางศาล” สำหรับเหตุการณ์คดีทวงสิทธิ์หวย 30 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นดังนี้
คดีทวงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 พ.ย.60 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ปีที่ผ่านมา ร.ต.ท.จรูญ เดินทางไปที่ตลาดเรดซิตี้ และซื้อลอตเตอรี่มาจำนวน 1 ชุด ต่อมาเมื่อทราบว่าลอตเตอรี่ที่ตนซื้อมาถูกรางวัลที่ 1 จึงเดินทางไปที่กองสลากเพื่อรับเงิน ในวันที่ 3 พ.ย. 2560 ได้รับเงินเป็นจำนวน 29,850,000 บาท แต่แล้วในวันที่ 28 พ.ย. 60 ร.ต.ท.จรูญ พบว่า เขาถูกอายัดเงิน เย็นวันนั้นเขาได้รับโทรศัพท์จากนายตำรวจเพื่อเรียกไปคุยที่บ้านพัก ให้ยอมรับว่าเขาเป็นคนเก็บสลากได้ เนื่องจาก ในวันที่ 27 พ.ย. 2560 ครูปรีชาได้ไปแจ้งความว่าตัวเองทำลอตเตอรี่หาย และนี่คือจุดเริ่มต้นทั้งหมดที่ทำให้ ร.ต.ท.จรูญ เดินทางไปหาทนายษิทรา เพื่อขอความเป็นธรรม
ต่อมาวันที่ 6 ธ.ค. 2560 แม่ค้าขายลอตเตอรี่ออกมายืนยันว่าตนขายลอตเตอรี่ให้ครูปรีชา ทำให้ ร.ต.ท.จรูญและทนายษิทรา เร่งหาหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งที่ตลาดเรดซิตี้และบ้านพักที่ถูกนายตำรวจเรียกตัวไป โดยนายตำรวจยอมรับว่าเรียกมาพูดคุยจริง แต่ไม่ได้บังคับให้ยอมรับว่าเป็นคนเก็บสลากได้
จากนั้นวันที่ 10 ธ.ค.60 ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม สั่งให้สารวัตรสืบสวนนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองกำกับการ 5 ลงพื้นที่ตรวจสอบหาความจริง วันต่อมา ร.ต.ท.จรูญและทนาย เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และยืนยันว่าตนเป็นคนซื้อลอตเตอรี่เอง และแจ้งความกลับครูปรีชา ตำรวจกองปราบปรามเรียก ครูปรีชา พร้อมแม่ค้าขายลอตเตอรี่ มาให้ปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 15 ธ.ค.60 และเรียกร.ต.ท.จรูญ กับทนายษิทรา ในวันที่ 18 ธ.ค. 2560
ถัดมากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ประชุมถึงความคืบหน้าในคดีนี้หลายชั่วโมง แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าเจ้าของสลากคือใคร ?
กระทั่งวันที่ 26 ธ.ค.60 ร.ต.ท.จรูญ พร้อมด้วยทนายษิทรา เข้าพบ รอง ผบช.ภ.7 จากกรณีร้องเรียนต่อ ผบ.ตร. ว่านายตำรวจระดับสูง 2 นาย มีประพฤติตนไม่เหมาะสม วันต่อมา ร.ต.ท.จรูญ และทนายษิทรา เดินทางเข้าตรวจดีเอ็นเอและลายนิ้วมือที่สถาบันนิติเวช
วันที่ 19 ม.ค.61 เวลา 14.00 น. สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แถลงผลพิสูจน์ลายนิ้วมือ ตรวจพบลายนิ้วมือของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล แต่ไม่พบของ นายปรีชา ใคร่ครวญ
โดยวันที่ 31 ม.ค.61 พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงถึงผลการสืบสวนและสอบสวนในคดีนี้ ว่า มีพยานยืนยันพบร.ต.ท.จรูญ วิมูล เก็บลอตเตอรี่ได้ และมีพยานยืนยันอีกว่ายี่ปั๊วได้ขายลอตเตอรี่ดังกล่าวให้กับแม่ค้าขายหวยที่ตลาดเรดซิตี้จริง แล้วนำไปขายต่อให้กับนายปรีชา ใคร่ครวญ
ต่อมาวันที่ 6 ก.พ.61 ร.ต.ท.จรูญ วิมูล พร้อมด้วยครอบครัว เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบ พร้อมเปิดเผยว่า รู้สึกสบายใจที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โอนย้ายคดีหวย 30 ล้าน ให้กองปราบฯทำ เพราะเชื่อมั่นในการสอบสวนมากกว่าตำรวจภูธรภาค 7 ขณะเดียวกันผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า จะปะติดปะต่อคดีนี้ใหม่ทั้งหมด นำผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าเครื่องจับเท็จ และจะดูหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นหลัก โดยไม่สนใจรายละเอียดที่ทำให้เรื่องซับซ้อนและพิสูจน์ไม่ได้
ทั้งนี้วันที่ 9 ก.พ.61 ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำตัว นายปรีชา ใคร่ครวญ จำลองเหตุการณ์ การซื้อลอตเตอรี่ โดย นายปรีชา เชื่อว่าเหตุการณ์นี้อาจทำให้ลอตเตอรี่ล่วงหล่นออกจากกระเป๋า แต่ขณะเดียวกันทางสื่อโซเชียลมีเดียได้มีการเผยแพร่คลิปเสียงที่อ้างว่า เป็นเสียงของ นายปรีชา กับ แม่ค้าขายลอตเตอรี่ โดยเป็นการสนทนาถึงเรื่องผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลในงวดนั้น
ขณะที่ในวันเดียวกันนั้น นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เปิดหลักฐานสำคัญเป็นภาพการสนทนาไลน์ ป้าบ้าบิ่น แม่ค้าขายลอตเตอรี่ และพยานของครูปรีชา ที่กล่าวกับคู่สนทนาซึ่งระบุว่า ไม่รู้ว่าใครถูกรางวัลลอตเตอรี่ นอกจากนี้ นายษิทรา ได้นำหลักฐานที่เหลือมอบให้ตำรวจกองบังคับการปราบปราม
