“มีชัย” ชี้รมต.ถือหุ้นสัมปทานก่อนรับตำแหน่งทำได้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




การถือหุ้นสัมปทานของรัฐมนตรี ทั้งนายมีชัย และ นายวิษณุ ยอมรับว่า เป็นคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 แต่หากเป็นหุ้นที่ถือครองก่อนรับตำแหน่ง นายมีชัย มองว่าไม่ถือเป็นความผิด ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เผยหลัง นพ.ธีระเกียรติ นั่ง ครม. พบหุ้น SCC เพิ่มขึ้น 800 หุ้น

วันนี้ (15 ก.พ.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การครอบครองหุ้น SCC จำนวน 5,000 หุ้น ของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งเป็นหุ้นของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานกับรัฐ ที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เตรียมยื่น กกต. ตรวจสอบ เพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้พ้นจากการเป็นรัฐมนตรี  ในมุมมองด้านกฎหมาย นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยอมรับว่า การถือหุ้นสัมปทาน เป็นคุณสมบัติต้องห้ามของรัฐมนตรี ตามมาตรา 184(2) ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่คุณสมบัติที่ได้รับการยกเว้นไว้ในบทเฉพาะกาล ส่วนจะมีความผิดหรือไม่ นายมีชัยขอให้เทียบเคียงกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 12 ถึง 14 ปี 2553 เพราะเคยวินิจฉัยว่า หุ้นสัมปทาน ที่ถือครองก่อนเข้ารับตำแหน่งไม่ถือเป็นความผิด แต่การซื้อหุ้นสัมปทานภายหลังเข้ารับตำแหน่งแล้วจะไม่สามารถกระทำได้

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า ต้องดูว่าหุ้นที่ นพ.ธีระเกียรติ ถือครองเป็นหุ้นประเภทใด หากเป็นหุ้นสัมปทานกับรัฐ จะเป็นเรื่องที่ขัดกับกฏหมายและคุณสมบัติของรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะดำเนินการตรวจสอบ

ด้าน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นโต้แย้งนายมีชัย ที่อ้างถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า คำวินิจฉัยนั้น เป็นหลักการที่ใช้กับ ส.ส. และ ส.ว. พร้อมย้ำว่าตำแหน่ง รัฐมนตรี ไม่สามารถถือครองหุ้นสัมปทานได้ แม้แต่หุ้นเดียว  แต่หากจะยึดตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ นพ.ธีระเกียรติ ก็ถือว่าอาจเข้าข่ายพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากตรวจสอบตอนเข้ารับตำแหน่ง ในครม. ประยุทธ์ 3 ปี 2558 ในตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ นพ.ธีระเกียรติ แจ้ง ป.ป.ช. ว่าถือครองหุ้น SCC ไว้ 4,200 หุ้น แต่เมื่อพ้นจากตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ เพื่อไปดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ พบว่า หุ้น SCC เพิ่มขึ้นอีก 800 หุ้น จึงยืนยันว่า การถือหุ้นสัมปทานนี้ ไม่สามารถทำได้

สำหรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 12 – 14 ปี 2553 ซึ่งเป็นการวินิจฉัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ สมาชิกวุฒิสภา 45 คน ที่ถูกยื่นร้องตรวจสอบกรณีการถือหุ้นในบริษัทที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานกับรัฐ และหุ้นในบริษัทสื่อมวลชน และมี ส.ส. 2 คน ที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี ในรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะนั้น คือ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ และ นายเกื้อกูล ด่านวิชัยจิตร ที่พบว่ามีจำนวนหุ้นเพิ่มระหว่างดำรงตำแหน่ง จึงต้องพ้นสภาพการเป็น ส.ส. และลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีในเวลาต่อมา

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ