วันนี้ (18 ก.พ.61)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อของเด็กวัย 2 ขวบ ที่มีรอยแผลตามตัว และมีวัตถุคล้ายตะปูในท้อง เข้าสอบถามความคืบหน้าทางคดี และให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับตำรวจภูธรค่ายบางระจันอีกครั้ง
โดย พ.ต.ท.เดโช กันหะ สารวัตรสอบสวน สภ.ค่ายบางระจัน ระบุว่า ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาได้ เพราะต้องรอผลตรวจร่างกายจากแพทย์ก่อน ซึ่งวันนี้ จะให้พ่อเด็กพาไปสอบถามพยานฝั่งตา-ยายของเด็ก ที่จังหวัดชลบุรี เพื่อดูว่าก่อนพามาฝากเลี้ยงกับพี่ชาย หรือลุงของเด็ก พ่อแม่เลี้ยงดูอย่างไร และหลังจากนี้อาจจะมีการสอบถามข้อมูลฝั่งลุงเด็กและพี่เลี้ยงเพิ่มอีกครั้ง
จากข้อมูลพบว่า ลุงของเด็ก และพี่เลี้ยง ทำงานภายในตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามกับพี่เลี้ยง ถึงประเด็นที่พ่อของเด็กสงสัยว่าพี่เลี้ยงทำร้ายหรือไม่ เธอมีท่าทีปฏิเสธไม่ยอมชี้แจง แต่ยืนยันเพียงว่าไม่ได้ทำ และให้ไปถามลุงของเด็กแทน
ขณะที่ลุงของเด็ก ซึ่งทำอาชีพหมอดู หน้าทางเข้าตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน ลุงยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้ทำร้ายหลาน และเชื่อว่าพี่เลี้ยงไม่ได้ทำร้ายเพราะเวลาหลานอยู่กับพี่เลี้ยงจะร่าเริง ส่วนประเด็นที่บอกว่าลุงพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ให้พ่อกลับมาเจอลูก ลุงอ้างว่า เพราะช่วงนั้นหลานติดพี่เลี้ยงมาก และเห็นดวงน้องชายไม่ค่อยดี จึงยังไม่ให้มาเจอหลาน
สำหรับรอยแผลที่เกิดตามตัวเด็ก ลุง อ้างว่า เคยเห็นรอยแผลบนหน้าอกหลานหลายจุดตั้งแต่ตอนพ่อของเด็กพามาฝากเลี้ยง ส่วนแผลให้ที่เกิดขึ้นใหม่ อ้างว่า หลานคันและชอบเกาจนเป็นแผล แถมช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลานซนวิ่งล้มจนปากแตก
ด้านพ่อเด็กไม่เชื่อทั้งพี่ชายตัวเองและพี่เลี้ยง เพราะตั้งแต่เกิดเรื่อง พี่ชายไม่มาเยี่ยมหลาน และได้นำรูปของลูกสาวก่อนนำมาฝากให้พี่ชายดูแล ที่ถ่ายเก็บไว้วันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 มาแสดงเป็นหลักฐานว่า ตลอดเวลาที่เลี้ยงลูก ลูกไม่เคยมีแผล และยังสังเกตเห็นว่ารอยแผลบนคอลูกสาวตอนนี้ มีลักษณะเป็นรอยเล็บขนาดใหญ่กว่านิ้วมือเด็ก
ส่วนอาการของเด็ก เริ่มดีขึ้นสามรถรับประทานอาหารได้ แต่ตะปูที่อยู่ในท้องแพทย์ยังไม่ได้ผ่าตัดนำออกมา ขณะที่กระดูกซี่โครงหัก ก็กลับมาเชื่อมต่อแล้ว และพบว่าซี่โครงหักมาได้ 1-2 เดือนแล้ว