“อุ้งตีนหมี-หางเสือ-เนื้อสัตว์ป่า” เสี่ยงต่อการติดเชื้อ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




อดีตนักวิชาการด้านโภชนาการ ชี้ เมนู “อุ้งตีนหมี-ซุปหางเสือ-เนื้อสัตว์ป่า” เสี่ยงต่อการติดเชื้อ

ในปัจจุบันยังมีคนส่วนหนึ่งที่มีความเชื่อว่า อุ้งตีนหมี หางเสือ เป็นยาโด๊ป ที่มีสรรพคุณบำรุงสมรรถภาพทางเพศ จนเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์มีข่าวใหญ่โตตามสื่อต่างๆ หลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและ กรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน เข้าไปลักลอบตั้งแคมป์พักแรมในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยในจุดเกิดเหตุพบซากเสือดำที่นายเปรมชัย พร้อมพวกได้ล่ามาเป็นอาหาร โดยได้เลาะเฉพาะเนื้อขาขวาหลังเสือดำ มาย่างกิน ส่วนหางเสือดำนำไปปรุงเป็นซุป

อีกทั้งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีการจับกุม นายอภิวัฒน์ นิลสนธิ อายุ 33 ปี พร้อมซากหมีที่อุทยานเขาใหญ่ โดยผู้ต้องหายอมรับว่าได้ชำแหละเนื้อและอวัยวะนำไปขายและประกอบอาหาร

ทางทีมข่าวนิวมีเดียพีพีทีวี จึงสอบถามไปยังนักวิชาการด้านโภชนาการ ถึงสรรพคุณของอุ้งตีนหมี และ หางเสือว่าเป็นยาบำรุงชั้นดีตามความเชื่อสมัยโบราณจริงหรือไม่

นางสุจิตต์ สาลีพันธ์ อดีตนักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ (ด้านโภชนาการ) อธิบายว่า เมนูอุ้งตีนหมี หรือ ซุปหางเสือดำ เป็นสารอาหารประเภทโปรตีน ไม่มีสรรพคุณบำรุงสมรรถภาพทางเพศแต่อย่างใด แต่ที่เห็นหลายคนนิยมและต้องการรับประทานอาหารชนิดนี้ก็อาจจะเป็นความเชื่อในส่วนบุคคลเท่านั้น

“อุ้งตีนหมี ซุปหางเสือ หรือ จู๋เสือ มีค่าโภชนาการไม่ได้แตกต่างจากการรับประทานเนื้อสัตว์ทั่วไป เพราะมีสารอาหารประเภทโปรตีนเหมือนกัน ที่สำคัญเนื้อสัตว์ป่าจำพวกนี้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลายชนิด เช่นพยาธิที่อาจปะปนมากับเนื้อสัตว์หากปรุงไม่สุกเท่าที่ควร เพราะเนื้อสัตว์ป่าไม่มีการควบคุมด้านความสะอาด ไม่เหมือนกับเนื้อสัตว์ที่มีขายทั่วไปจะมีการควบคุมดูแล และ ขอแนะนำว่าประเทศไทยมีอาหารให้รับประทานหลายชนิดไม่จำเป็นต้องไปรับประทานอาหารจำพวกสัตว์ป่าหายาก” อดีตนักวิชาการ ด้านโภชนาการกล่าว

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ