เมื่อวันที่ (21 ก.พ. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นสำคัญที่ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ให้สัมภาษณ์ในวันนี้ คือ การตำหนิสื่อมวลชนบางสำนัก ที่นำเสนอข่าวในลักษณะตำรวจสรุปสำนวนคดีแล้วว่า สลากกินแบ่งฯรางวัลที่1 มูลค่า 30 ล้านบาท เป็นของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล คู่กรณี ทั้งที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามยังอยู่ระหว่างทำงาน และไม่ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ
ครูปรีชา ย้ำตลอดการพูดคุยว่า รู้สึกไม่พอใจการนำเสนอข่าว พร้อมถามหาความรับผิดชอบจากสื่อกลุ่มหนึ่ง ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เบื้องต้นครูปรีชาระบุว่า กำลังอยู่ระหว่างปรึกษาทนายความ ว่าควรดำเนินคดีกับสื่อกลุ่มนี้หรือไม่
ส่วนกรณีคลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน ครูปรีชา ยืนยันว่า ตำรวจเคยนำคลิปเสียงมาให้ฟังเพียง 4คลิปเนื้อหาหลักเป็นการซื้อขายสลากกินแบ่งฯ และ การสอบถามว่าถูกรางวัลหรือไม่ ครูปรีชายืนยันกับตำรวจว่าคลิปทั้ง4เป็นเสียงของตนเอง ส่วนจะใช่คลิปเสียง 2 คลิป ที่ถูกเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ครูปรีชาระบุว่าไม่ทราบ เพราะไม่ได้ติดตามข่าว เนื่องจากไม่เชื่อข่าวที่ปรากฎในสื่อ และทีวีที่บ้านก็เสีย
ส่วนยข้อมูลที่ระบุว่า มีคลิปเสียงอีกหนึ่งคลิป พูดคุยเรื่องการตามหาสลากฯรางวัลที่1 หากตามหาพบผู้สนทนาจะแบ่งเงินกัน ครูปรีชายืนยันว่าไม่เคยฟังคลิปดังกล่าว และไม่ทราบข้อมูลเรื่องนี้ การที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ระบุว่าจะเร่งสรุปสำนวนคดีในเร็วๆนี้ ครูปรีชายืนยันว่า ไม่รู้สึกกังวล เพราะความเห็นของตำรวจกองบังคับการปราบปรามก็ยังไม่ใช่บทสรุปเรื่องนี้ เพราะตามขั้นตอน ยังต้องต่อสู้ กับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล คู่กรณี ต่อในชั้นศาล
ขณะที่วันนี้อดีตข้าราชการครู 2 คน จาก จ.สระแก้วและจ.สุพรรณบุรี เดินทางมาให้กำลังใจครูปรีชา ทั้ง 2 คนระบุว่า ติดตามคดีนี้มาอย่างต่อเนื่อง จนมั่นใจว่า ครูปรีชาไม่ได้โกหก ประกอบกับ ได้พูดคุยกับครูปรีชาและเห็นใบบันทึกประจำวันที่ครูปรีชาเคยร้องทุกข์ตั้งแต่ วันที่ 2พฤศจิกายน 2560 ทำให้เชื่อว่าสลากฯรางวัลที่ 1 เป็นของครูปรีชา พร้อมกันนี้ยืนยันว่า ตนเองไม่ใช่ขบวนการหลอกหลวง และพร้อมรับผิดชอบต่อการแสดงออก หากพบว่าครูปรีชามีความผิด
ร.ต.ท.จรูญ วิมูล และภรรยา วันนี้ยังคงปักหลักอยู่ที่บ้านพัก พร้อมเปิดเผยว่า รู้สึกมีกำลังใจที่ประชาชนส่วนใหญ่ เชื่อว่า สลากฯชุดดังกล่าวเป็นของตนเอง แต่ยืนยันว่าในทางคดีต้องรอตำรวจแถลงสรุปอย่างเป็นทางการ